วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556

Aren Kingdom : บทที่ 2 "สงครามค่ายต่อต้าน"

"หลังจากการทำกิจกรรมแคลนครั้งแรกได้ผ่านพ้นไปด้วยดี(เหรอ~เสียงสูง)"

















             แคลนของเราที่จับตัวกันอย่างหลวมๆ มีแต่พูดคุยผ่านการพิมพ์กันในช่องแคลน
 เริ่มสนิทและทำอะไรด้วยกันมากขึ้น    เริ่มแชร์ของใช้ด้วยกัน เก็บเลเวลด้วยกัน อย่างที่
เคยเกริ่นเอาไว้ เราไม่อยากให้การร่วมตัวของเราเกิดขึ้น   เพื่อผลประโยชน์ แต่เราจะทำ
เพราะอยากทำด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเอง    การพุดคุยที่สนุกสนาน ไม่นานแคลนเล็กๆ
แคลนนี้ก็เริ่มดึงดูดกลายเป็นจุดสนใจขึ้นมาบ้าง     ในช่วงกระแสของเกมส์ที่ยังมีคนเริ่ม
เล่นใหม่เรื่อยๆ เราได้มีโอกาสหาสมาชิกใหม่ มาเพิ่มมากมายเลยทีเดียว 

             พี่2ของเราค่อยๆสะสมเลเวลกับชาวแคลนจนเดินทางมาถึงคลาส 2    ทางแยก
ของไนท์ดาร์คเอลฟ์นั้นก็คือชิชิเอนไนท์ผู้แข็งแกร่ง ค่อยปะทะอยุ่เบื้องหน้า  และ เบลด
แดนเซอร์ ผู้สนับสนุนให้กองกำลังมีพลังทำลายล้างสูงสุด แทบไม่อยากจะเชื่อว่า   พี่2
เลือกจะเป็นเบลดแดนเซอร์ ด้วยเหตุผลที่อยากสนับสนุนลูกแคลนในทุกรูปแบบ และ 4 
ที่เล่น ออลันดุย เลือกที่จะเป็นกลาด้วยความหลงไหลในสเต็บของกลาดิเอเตอร์  (ยุคนี้
กลารุ่งเรื่องมากไปไหนมาไหนก็มีแต่กลา ส่วนหนึ่ง   คงเพราะอิทธิพลจากคุณ  Mชบา) 
การเก็บเลเวลก็ง่ายๆ เพียงแค่วัดดวงเลือกลงฝ่ายจากนักบวช รุ่งอรุณ หรือ สนธยา เพื่อ
ลงไปหาปาร์ตี้เก็บเลเวลในดันเจี้ยน และอาจมีบางครั้งที่เรา ถูกอกถูกใจและชวนมาเป็น
สมาชิกใหม่ แต่ช่วงที่พีกที่สุดคงเป็นหลังจากที่ออรันดุย ท ำความรู้จักกับโรบอท ในยุค
ที่ยังมีคนแอนตี้กันเยอะมาก ไม่นานเขาก็โดนแบน...(สมัยแรกๆโดนทีเดียวไปเลยไม่ถง
ไม่ถามเรื่องสุขภาพสักคำ)เป็นที่เสียอกเสียของพี่ๆกันมาก    (ดาบซามูกับชุกหมาป่าพี่2
 กับสไตร์เดรอ์ 55 ของสามซิกๆ)

            ปล. สไตร์เดอร์สมัยแรกๆนั้นไม่ดูด  EXP จากคนต้องเอาไปกระโดดจิกกะมอน
สเตอร์จน 55เองแถมน้องหนูแฮชลิงก็แสนบอบบาง เฮ้อ...

           ก่อนหน้านั้นไม่นาน พี่2ได้บวกดาบคู่ซามูไรเล่นจน...กลายเป็นคริสตัลที่สนาม
มอนสเตอร์ยังพอจำได้คร่าวๆว่าทันทีๆบวกแตกพี่    2   ตะโกนกับคนในสนามมอน ลุง
ดรอฟที่พี่2อุดหนุนกระสุนเป็นประจำ รีบตั้งรับ     คริสตัลในราคาสูงทันที ชอบสมัยนั้น
จริงๆ คนเล่นกันตอนนั้นมีน้ำใจมากๆ หลังจากที่  4  ทำใจ(และพี่ๆก็ต้องทำใจ) ไม่นาน
เขาก็กลับมาเล่นกลาอีกครั้งในชื่อ Daronการและการเล่นใหม่ของเขานี้เอง ที่ได้นำพา
สมาชิกกิตติมาศักย์เข้ามาอีกหลายคนได้แก่  (แฮมมี่ หรือ เบ็น ) และ  (จตุรเทพเลโอ 
หรือ ต้อม) สมัยก่อน 3 คนนี้ไปไหนมาไหนกันเป็นแพ็ค ทรีโอ้    















         
         และที่จำได้ดีมาก็คือ พวกเขาชอบแข่งขันกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเก็บเลเวล ใน
ดันต่างศานา   และที่ไม่มีทางลืมก็คือการบวกดาบซามูคู่สุดอาถรรพ์ตอนแรกๆก็ใช้กัน
แค่  บวก 4 บวก 5 แต่พอมา แฮมมี่เริ่ม +6 วันต่อมาต้อมกับ4ก็มาบวก7แข๋งกัน 

และสุดท้ายก็....กองคริสตัล 

         เราได้สมาชิกจำนวนหนึ่งจากในดันเจียน  และอีกหลายๆทาง       ที่พอจำได้ก็มี 
(แย้ปิดผนึก หรือ ลุงบิ๊ค)  MrPerfect  แห่งหอคอยทรนง มุซาชิเบงเค ที่ชอบหลงทาง
นิดหน่อย (Oma หรือพี่พู)    ชุดไนท์แมร์ของสาวเอลฟ์ ตอนนั้นเด่นมากๆ เกย์สังหาร 
วิซาร์ด ไฟผู้โหดเหี้ยม    แต่เป็นกันเองกับเพื่อนๆ และก็ เซน ๐Stila๐ ผู้ชื่นชอบอันเดธ 
Maxbraker ผู้ใช้ของเกรดดีนานมาก และ StMichel พระอาท ผู้มีฉายา "ช่างไม่รู้อะไร
บ้างเลย"คุณสมบัติ ปล่อยไก่เลเวล 10   แถมบวกสกิลอีก 30 คุณจะมีเรื่องสนุกๆกับเขา
ได้แทบทุกวัน หลังจากร่วมร่วมคนได้มากมายในระกับหนึ่ง    ก้าวต่อไปของเราคือการ
ทำแคลนเลเวล 5 และการหาค่ายเป็นอะไรที่ใฝ่ฝันกันมากๆตอนนั้น แต่เรามาเริ่มกันช้า
ไป ค่ายทุกแห่งมีเจ้าของหมดแล้ว และต้องใช้เงินแยะมาก   กว่าจะประมูลค่ายสักแห่ง 
ค่ายแรกของเราจึงมากับการหา ป้อมที่ผลัดเปลี่ยนมือกันไปหรือต้องแย่งชิงกัน 

           สมรภูมิแรกของเราคือ  "ค่ายต่อต้าน"


           ค่ายต่อต้านนั้นชิงง่ายมาก เพียงแค่แคลนไหนที่ทำเดมเมจให้กับเรดประจำค่ายที่
จะปรากฏตัวในเวลารีเซ็ทค่าย(วันศุกร์ตอนหัวค่ำ)ก็จะได้ค่ายนี้ไปเชยชม ในตอนนั้นค่าย
ต่อต้านก็ยังมีเจ้าของอยู่แต่ไม่มีคนในแคลนนั้นให้ติดต่อเลย        พี่2เลยตัดสินใจพาลูก
แคลนทั้งหมดนัดร่วมตัวและก็ได้ค่ายต่อต้านมา โดยไม่มีใครมาแย่ง 


           เราได้มีความทรงจำกับที่นี้

           เราได้มีค่ายเป็นครั้งแรกความรู้สึกปลาบปลื้มดีใจ และไม่นานนักเราก็เริ่มกลับมา
ล่าเรดเด็ก 30 กันอีกครั้ง  โดยให้คนที่อยากไปมาทำตัวเด็กสำนักและเลือกเก็บเลเวลกับ
เรดบอส ที่จำได้ดีที่สุดคงจะเป็นการล่าเรด  นูคาร์  ที่อยู่ติดกับค่ายต่อต้านของเราพอดี 
เลยจัดการลากเรดนูคาร์เข้ามาตีในค่าย

......... แต่ความสงบนั้นก็คงอยู่เพียงไม่นาน    หลังจากที่เรายึดติดกับค่ายต่อต้านมาเป็น
เวลาเกือบๆ 3 เดือนก็ได้ปรากฏตัวผู้ท้าชิงค่ายคนใหม่นั้นก็คือ Charot clan ในครั้งแรกนั้น 
เขามากับพันธมิตรของเรา EJ เอ็กคลูซิฟแจ็กเกิล     ด้วยกำลังที่มีมาก ทั้งชุดและเลเวล
ของเราต่างเป็นรองเขาทุกด้านแต่ด้วยความโชคดี   




           ครั้งแรกนั้นเรายังสมารถกันค่ายต่อต้านนี้ไว้ได้

           แต่ ชาลอตก็ยังไม่ตัดใจเขายังคงมาร่วมชิงค่ายกันอีก และคราวนี้เขาก็ไม่ได้เลือก
วิธีการอีกด้วยเขาเลือกที่จะฆ่าคนฝ่ายตรงข้ามก่อน แน่นอนว่าแคลนกลางที่สู้แต่กับมอน
สเตอร์มาโดยตลอดเลเวลเฉลี่ย 60กว่าๆ จะไปงัดกับ    คลาส 3 คงจะไม่ไหว และเราก็ไม่
อาจรับมือได้ แม้ครั้งต่อๆไปเราจะมาคุยตกลงกันกับเขาว่าจะตีแต่เรดเท่านั้น  แต่ก็มีแทบ
ทุกครั้งที่เราจะถูกฆ่าทันทีที่เรดมา มีเสียงหัวเราะเย้ยหยันทั้งๆทีเราเองก้ไม่เคยไปทำอะไร
เขาก่อน   



















     
          ยอมรับเลยว่าครั้งนี้เป็นการมีความบาดหมางกันระหว่างแคลนครั้งแรก 

          แม้จะมีสมาชิกแคลนหลายคนจะมีอารมณ์ อยากจะเอาคืนบ้าง  แต่สุดท้ายเรายัง
เลือกที่จะไม่ทำแม้การต่อสู้นั้นอาจจะมีโอกาสได้รับชัยชนะ แต่ทุกการต่อสู้และการเข้า
ปะทะเราต่างก็ได้รับรอยแผลทั้งเขาและเรา         เรายังอยากเล่นเกมสืเพื่อคลายเครียด  
ยังอยากรู้สึกเป็นกันเองแบบครอบครัวทางเลือกที่ดีที่สุดคือละทิ้งค่ายต่อต้านโดยสิ้นเชิง

Aren Kingdom : "บทที่ 8 การสานต่อ"

สถานการณ์ในโลกลินเนจแห่งเซอร์เวอร์บาทซ์...ไฟสงครามกลับมาระอุอีกครั้ง...



      การกลับมาของ แคลน ซุปเปอร์ริโอ และ Md ร่วมถึงเหล่าพันธมิต่กลับเข้าสู่สมรถูมิการปะทะ
กันของขั้วมหาอำนาจ   แห่งลินเนจบังเกิดขึ้นอีกครั้ง เปลวไฟแห่งสงครามไม่เคยมอดไปจากเซิฟ
เวอร์ 1 จริงๆแคลนกลางหลายๆแคลนค่อยๆทยอยหายไปเป็นแคลนสงคราม ไม่ว่าจะเป็น บลูแอง
เจิล   หรือดราก้อนเควสพันธมิตรแคลนกลางหร่อยหรอลงไปอีกหนไฟสงครามนี้ยังล่ามมาถึงชาว
แคลนพันธมิตรเอ็กโซดัส จนต้องยุบแคลนลงไปอีกคราเป็นอีกคราที่แคลนกลางถูกบังคับให้เลือก
ฝ่าย แต่เรา... ยังคงอยู่แบบนี้เหมือนเดิม

     จากกิจกรรมใหม่ที่จัดขึ้นใน Nc ทรู ลินเนจ2 ทำให้พวกเรากลับมาทำแคลนกันอีกครั้งสานต่อ
จากช่วงเวลาที่ขาดหายแม้ตอนนี้พี่  2   จะทำงานประจำจนยุ่งแต่ยังพยายามกลับเข้ามาต้น กำลัง
เตรียมไปเรียนที่ญี่ปุ่น   จึงบอกลาแคลนกันแต่เนิ่นๆ แต่ยังช่วยทำกิจกรรมครั้งนี้การเก็บค่าเลืองชื่อ
แคลนครั้งใหญ่ ปั้นตัวเด็กเลเวล 40  กันเป็นสิบๆตัว   และก็มีคนเข้ามาใหม่อย่างป้าส้มแน่นอนการ
หายไปอย่างยาวนาน   ของกลุ่มพี่น้องตัวเลขทำให้การเชื่อมความสัมพันธ์ต่างๆ  ยังไม่เหมือนเดิม
เท่าไหร่   มีหลายคนไม่อยากทำกิจกรรมนี้ เพราะมันได้ของรางวัลแคลนจากกิจกรรมด้วยหลายคน
เข้าใจว่าพวกเราอยากได้ของกันมากกว่าจนพี่ 2 ได้ทำประกาศพิเศษออกมา
..

..
      และผลงานจากกิจกรรมรอบนั้นได้แก่


     หลังจากที่หมดกิจกรรมอัพแคลนครั้งใหญ่ ทำให้เรามีสกิลแคลนดีๆใช้กันถ้วนหน้าเลยทีเดียว
และผลงานต่อมาของรอบนี้ได้แก่...

1.กิจกรรมล่าเรด 60-70



      เนื่องจากพวกเรามีสมาชิกและเลเวลกันมากขึ้นแล้ว และเรดบอสเลเวล 60-76 เป็นช่วงที่เรด
แยะมากที่สุด และความฝันของเราก็คือการล่าเรด  ช่วงเลเวลนี้พอที่จะสามารถ ปั้นและเลือกสาย
อาชีพที่ต้องการร่วมถึงสมาชิกใหม่ๆจะได้เข้ามามีส่วนร่วมด้วยแต่ก็ล่มไม่เป็นท่าเทื่าไหร่เรายังขาด
ยุทธโธปกรกับพระฮิลทำให้ การล่าเรดทำได้แค่ตัวง่ายๆตัวที่เลเวลเท่าๆกันสู้กับเรดบอสไม่ค่อยลง



2.ซาเคนชั้นสูง



     การทำเควสผ้าคลุมซาเคน เป็นกิจกรรมหลักที่เราไม่ค่อยพลาดเท่าไหร่  ทั้งแคลนของเราและ
พันธมิตรต่างมีปาร์ตี้ทำเควสนี้กันทั้งนั้นจบงานด้วยการประมูล/แจกจ่ายตามข้อตกลงของคนที่นำไป
ตี จนตอนนี้เราก็มีผ้าคลุมซาเคนใส่กันมากมาย(ยกเว้นโตที่ออนมาไม่ได้)



3.พรินเทเรซ่า


(ดูภาพได้ในลิงค์นี้)

     แคลนอเรนและเหล่า   พันธมิตรมีกำลังพลและสายอาชีพมากพอ ประกอบกับข้อมูลจากการลงตี
ครั้งที่แล้วทำให้เรามีความกล้าและความมั่นใจในวิธีการมากขึ้น เราค้นควาจากคนที่ตีลงได้การเฟ้นหา
สายอาชีพที่จำเป็น    เดมเมจนักธนู ออคสนับค่อยต่อยสโลว  ออคไททันทำเดมเมจจากการต่อสู้ครั้ง
ใหม่ กับซาเคนชั้นสูงทำให้ศักกายถาพของเราสูงขึ้นมาก       และท้าทายกับการเล่นของสูงกับบอส
เกมส์....แต่ยังเอาไม่ลงอยู่ดี 


4.เฟร่ย่า




    เหล่าพันธมิตรของเราไปเยือนกันประปรายบ้างแต่แคลนของเรานั้นไม่ได้ไปเลย เพราะคนของเรา
ค่อยๆหายไปจนเกือบหมดแล้วจากการไม่อัพแพท GOD




5.ฮัลเดเรียส ฟราน เฮลเดอร์แห่งวิหารนอกรีตและ อาเนียส แห่งอารามเงียบ
    แรกเริ่มด้วยการที่ต้นไปตีอาเนียจคนเดียวก่อน ทำให้แคลนเราขยับขยายตามไปตีบ้างและก็ทำสำ
เร็จสุดยอดความปราถนาตั้งแต่ครั้งแรกๆที่เราเคยไปเทียวชมในวิหารนอกรีตและอารามเงียบมาในตอน
นี้พวกเราทำสำเร็จแล้ว เราโค่นล้มทั้งคู่ ได้เป็นประวัติหน้าใหม่ของแคลนเลยทีเดียวเป็นความสำเร็จสูง
สุดจริงๆ


6.ทีอัส
    บอสใหญ่แห่งกราเซีย เราก็ยกพลไปถล่มมาแล้วถึง 2 รอบ แต่เจอบั๊คมอนมองไม่เห็นคนหลุดมอน
โหด ใช้เวลาในการฝ่าเข้าไปนานมาก ตายก็บ่อยมาก แต่เราก็ฝ่าฟันผ่านมาจนได้จนถึงห้องบอสปรากฏ
ว่าหอกซิ่งเปรี้ยวไปเปิดคนแรกซะงั้น - - เรายังเอาทีอัสลงไม่ได้ก็จริงแต่ตอนที่ไป สนุกมาก


7.ล่าทีเร็ก



    ลงกะไดโนเสาร์อีกแล้วคะ (มิน่าละ ถึงสูญพันธ์)พักหลังๆโดนทีเร็กแก้แค้นลอบฆ่าบ่อยมากๆ
จนทนไม่ไหวแพทใหม่ก็ต้องฆ่าทีเร็ก แถมตี้เราแค่มี สาม พัช และ แฮมที่ โฉมใหม่ลงได้ด้วย
คน 3 คนเท่านั้น * *


8.โคริก/กอร์ดอร์/มิติ80/วงกต/เรดไข่สตาคาโท
     กิจกรรมสุดโหดประจำแคลนทสามารถทำได้ด้วยปาร์ตี้เดียวหากคนครบและอาชีพครบว่างอันไหนก็
ไปอันนั้น โดยเฉพาะ สตาคาโท ลงไปทำเพื่อแลกกับเควสหมวกแมลง

     แต่กาลรอคอยที่ยาวนาน หลายๆคนที่เลเวลตันและเป็นช่วงพักของเขา ระหว่างรออัพแพทใหม่กอด
เดสออฟเดสทรักชั้นที่จะมีการเปลี่ยนแปลงต่างๆมากมาย...พวกเรารอคอย...  หลายคนหยุดออนเพื่อรอ
แพทใหม่ คิดว่าไม่นานเกินปีนี้ แต่นี้กำลังจะหมดปีอยู่แล้วก็ยังไม่มา    คนที่อยู่ก็ทยอยหายไป จนค่อยๆ
หายไปทีละคนๆจนถึงตอนนี้..เหลือแค่ โต ต้อม เมที่ยังออนอยู่...  สามเองก็ไม่ได้ออนเข้ามานาน...มัน
นานมากพอที่จะทำให้ใครหลายๆคนค่อยๆหมดความอดทน...  และเลือกที่จะจากไป...    ถ้าเป็นไปได้ 
สามก็อยากจะอยู่ที่นี้จนกว่าตัวเกมส์จะปิดลงไปที่นี้มีอะไรมากกว่าที่จะทิ้งลงไปได้ง่ายๆ     (รูปล่างกดดู
คำพูดที่คุยกันได้) ความผูกพันละมั้ง...


      ตอนนี้ไม่มีแคลนอเรนที่ยิ่งใหญ่ ไม่มีคนออนมากหน้าหลายตา...ไม่มีปาร์ตี้เพื่อนที่พันธมิตรค่อยๆห่าง
หายออกไป กลับไปเป็นตัวแถมในการตีเรดบอสต่างๆให้คนอื่นและคงกลับมาค่อนข้างยากแล้วละ... ทุกคน
มีภาระหน้าที่ที่เปลี่ยนไป... ระบบเกมส์ที่ไม่เอื้อกับแคลนกลางเช่นเคย ไฟสงครามก็ระอุกลัขึ้นมาอีกครั้ง
แล้วครั้งเล่า...พวกเราที่ยังเหลือจะเป็นยังไงกันต่อไปนะ จะเป็นยังไงกันต่อไปนะ?

Aren Kingdom : บทที่ 5 "ยุคมืด"

จากอนาคตที่ฝัน ได้กลับกลายเป็น"ปัจจุบัน"...
        จากปัจจุบัน ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นร่องรอยของคำว่า "อดีต"...
               และจาก"อดีต"ที่น่าจดจำ ก็จะกลายเป็นแค่"รอยจางๆ"ในความทรงจำ...


      และสุดท้ายคงเหลือไว้เพียง "บันทึกเล่มเล็กๆ"สืบต่อไปในแคลน อเรนปฐมบทนั้นเคยกล่าว
ไว้ถึงตำนาน Md Team เรื่องอำนาจและยึดครองเซิฟเวอร์บาทซ์แต่แล้วก็เกิดการแตกหักภายใน 
เพราะเรื่องผลประโยชน์... สุดท้ายจากเพื่อนกลับเป็นศัตรูการต่อสู้ขั้นแตกหัก และการล่าถอยไป
ของผู้ตกเป็นรองที่จริงทุกอย่างควรจะจบลงด้วยดี หากผู้ที่ก้าวเข้ามาปกครองใหม่ได้เลือกระบอบ
เดิมเป็นเรื่องที่น่าเศ้รา...แต่ช่างมันเถอะ...มันไม่เกี่ยวอะไรกับเราเลย(แล้วพิมพ์ทำไมเนี้ย?)

        ความมืดค่อยๆก้าวเข้ามาสู่แคลนอเรน อย่างช้าๆ การร้างลาห่างหายของผู้คนในแคลนจาก
เหตุผลต่างๆ  คนสนิทที่  ขอกลับไปจับดาบหวนคืนสู่สมรภูมิอันไร้ที่สิ้นสุดแห่งปลายทางและการ
ออกจากพันธมิตรของแคลน   Umbrella   ที่เข้ามาร่วมทางกันพักใหญ่ๆในการชิงป้อมตีเรดซัฟ
และเควสแพะ แคลนพันธมิตรเก่าที่เคยคู่กันมาอย่างเซงเกลก็ ทยอยหายไปจนหมดแต่กลุ่มพลัง
ก็ยังคงเหนียวแน่นฝ่าฟันหาทางที่ยากลำบาก  คนใหม่ๆไม่ค่อยเข้ามาเล่นเกมส์นี้เจอแต่เพื่อนเก่า
กันซะมากกว่า จนทำให้กระแสต่างๆคล้ายกับหยุดนิ่งตอกย้ำด้วยหัวแคลนโดนแบน 30 วัน ยุคมืด
แท้เลยนะนี้ เวลา 30 วันช่างยาวนานกิจกรรมชิงป้อมที่ไม่มีคนปักธงทำให้กฎการห้ามตายต้องเกิด
ขึ้น  แถมต้องแข่งกับเวลาแค่คิดก็เหนื่อยแล้ว   แคลนเรายังคงโดนเพ็งเล่งจากหลายๆฝ่ายอำนาจ
แต่ก็ไม่ได้รู้สึกกดดันเหมือนตอนแรกๆแล้ว แต่ในยุคมืดก็ยังมีความหวังพวกเราได้ร่วมกันทำแคลน
ต่อไป แม้เพื่อนๆจะไม่เท่าเดิม...

    "ในความมืดมิดนั้นเราก็ยังคงมีเรื่องราวดีๆที่ควรค่าในการจดจำนะ..."
------------------------------------------------------------------------------------


1.ก้าวเข้าสู่แคลนเลเวล 7
   การปั้นเด็กสำนักอย่างเอาเป็นเอาตายจากคำสั่งของหัวแคลนจอมโหดและกฏการปั้นเด็กเดือนละ
ตัวทำให้คนในแคลนปั้นตัวกันสนุกสนาน มีแต่โตไม่ลงมา ตอนนั้นขอเก็บเลเวล 80ก่อนและตำนาน
บทใหม่ของลุงบิ๊ค ปั้นตัวละครเด็กเลเวล 1-40 12 ตัวใน 5 วัน(แต่ก่อนมันยากกว่าตอนนี้เยอะมาก)
และหลายๆคนช่วยกันทำจนได้ค่าเลืองชื่อพออัพแคลนเลเวล 7


2.พันธมิตรแห่งไข่
   เมื่อแคลนมีเลเวลใหม่ สกิลแคลนก็ต่องเพิ่มตามมาแต่ติดตรงว่าไข่เรดบอสที่จะนำมาใช่้กลับไม่มี
การวางแผนล่าเรดบอสเลเวล 40 จึงเกิดขึ้นเพื่อตามล่า (1.หัวใจมังกร2.ดวงจิตเทวดา3.ไำข่ธรณี)เรา
อาศัยผลผลิตจากตัวละครเด็ก 40  ที่ปั้นเพื่อค่าเลืองชื่อมาหากินต่อ กับการล่าเรดเด็กนั้นเองกลุ่มล่า
เรดเด็กเฉพาะกิจจึงบังเกิดนำโดย  พี่สองและต้อมและแคลน Em  ไปล่าเรดแถวๆฮาเนส,กีรัน,เมื่อง
นักล่า ,โอเรน ตายกันก็บ่อย (วิ่งป่าราบ)มีตัวบัพบ้างไม่มีบ้างชุบเด้งแท็งค์ตอนนั้นทำให้เราเห็นความ
แตกต่างของเรด เลเวลเท่ากันแต่ความดหดร้ายไม่เท่ากันก้เยอะแต่ก็พอถูพอไถ่จนได้มาพอสมควร


3.การจัดปาร์ตี้ล่ามังกรน้ำดำสุดโหด
   โดยปาร์ตี้คลาส 3 เฉพาะกิจ พี่สอง สี่ ต้อม โต พี่โจ้ ที่การร่วมตัวนานมากแต่คุ้มค่ากับการรอคอย
(หรือเปล่านะ Oo)เราหาทางลับว่ายน้ำไปโผล่ที่หาด และทำการล่า ตอนแรกก็ลำบากหน่อยเพิ่งเคย
เจอดีบัพฮิลไม่ขึ้นแต่ไม่นาน พวกเราก็ล่ามังกรน้ำดำลงจนได้แหละ



4.อานาคาเซล




















เรายังมีกาีรตีเรดบางประปรายไม่บ่อยแต่ไม่ถึงกับไม่มี และที่ไปกันบ่อยๆที่สุด การลงไปหาอนาคา
เซลในมิติเพราะใช้คนน้อยและเรดบอสไม่เก่งมากนัก เราวางแผนกันจะทำหิน -13 แต่ก็แสนจะผิด
หวัง การสุ่มเจอบอสไม่ใช่เรื่องง่ายๆเอาเลยแถม หิน -13 นี้ทำเป็นปียังไม่ค่อยจะได้(ซิกๆ)

      "แม้จะมืดมิดแค่ไหน หนทางแสนลำบาก แต่เรายังคงเดินไปข้างหน้าด้วยกันคะ ..."

Aren Kingdom : บทที่ 3 "สงครามชิงป้อมปั้นเขตผี"


สงครามชิงป้อมปั้นเขตผี....

ที่นั้น...ความรู้สึกมากมายยังคงวนเวียนอยู่ในนั้น…                      

ทั้งรู้สึกความยิ่งใหญ่…ภาพประทับใจ…และความรู้สึกที่แสนเศร้า…  




   
             กลับมาต่อเรื่องของแคลนหลังจากจบเรื่อง"ค่ายต่อต้าน"ได้ไม่นานพันธมิตรเก่าของเรา
สลีปปิ้ง ก็เตะเราออกมาคลุกฝุ่น    อา...สามไม่เคยเล่าถึงพันมิตรเก่าๆเลย เป็นพันธมิตรก่อนหน้า
จะทำ Exodus เรามีพันธมิตรเก่าเป็นสลีปปิ้งแคลน(ง่วง)  แต่เขาไม่ได้บอกสาเหตุอะไร

















         อเรน เป็นแคลนที่ไม่ค่อยมีดวงด้านพันธมิตรเท่าไหร่ แต่เราก็ยังพยายามร่วมรวบพรรคพวก
ฝึกการดวลปาร์ตี้ ซ้อมเพื่อเอาค่ายต่อต้าน(ยังประมูลค่ายไม่ได้)ในระหว่างนี้เราก็ได้เพื่อนที่ดีอย่าง
 AngelCry(บอล) จากแคลนดังในอดีตนักธนูเอลฟ์ที่เป็นเอลฟ์ ทั้งกายและจิตใจ (ขนาดทำเควสยัง
ต้องตีออคทำพันธมิตรกับแพะเพราะแพะนับถือน้ำเหมือนเผ่าเอลฟ์  ตรงข้ามกับออค)   หลังจากที่
พ่ายแพ้ให้แก่สงคราม ทั้งหมดทั้งมวลพวกเรากลับสู่สภาวะ ไม่มีอะไรเลยอีกครั้งหนึ่งกิจกรรมต่างๆ
ก็เริ่มหดหาย   ผู้คนลาจากไปตามแม้แต่   มูซาชิเบงเคที่พี่สองนับถือก็สาบสูญ  แต่ฟ้าหลังฝนของ
เราสามไม่แน่ใจเท่าไหร่หรอกเหมือนกันว่าจะสวยสดงดงามเช่นคนอื่นไหม?   ไม่นานนักเราก็ได้รับ
ข่าวดีจากพี่ไทแคลน  เซงเกล ย้อนอดีตไปสักนิดในระหว่างที่เราทำแคลนและออกไปล่าเรดดีออน 
พี่ไทก็ทำแคลนและออกไปล่าเรดดีออนเหมือนกันเป็นแคลนลูกพี่ลูกน้องกันเลียก็ว่าได้ ข่าวดีครั้งนี้
ไม่เราจะทำพันธมิตร  แต่จะยุบร่วมแคลนกัน  ทั้งพี่ไท  แจง  และใครอีกหลายคนก็หลั่งไหลเข้ามา 
พวกเราเกาะกลุ่มทำปาร์ตี้ที่แข็งแกร่ง  เพื่อก้าวสู่คลาสสามอย่าง  เต็มกำลัง  ไม่ว่าจะเป็นการฝ่าฟัน 
เควสที่บ่อน้ำพุร้อน   การทำเควสที่  วาคาซิเนโรช  แม้จะเหนื่อยที่ต้อง   มาจับปูใส่กระด้ง แต่ทว่า
ปูทุกตัวก็ไม่ยี่หระ  ยังคงร่าเริงกันอยู่ดีไม่นานเพื่อนๆคลาสสามของเรากำเนิดขึ้นมาในแคลนทีละคน   
ช่วงนี้เป็นช่วงที่สามกลับมาอยู่แคลนเต็มตัว...    หลังจากที่เหยียบเรือสองแคม มานาน ไม่มีที่ไหน
อบอุ่นเท่าพี่น้อง และไม่มีจุดยืนที่ไหนดีกว่าจุดยืนของเราเองหรอก       เราค่อยๆจับมือเพื่อนๆก้าว
ผ่านกำแพงพวกนั้นมาอย่างช้าๆ   แต่มั่นคง แคลนของเราจากที่เล่นมือกันมาตลอดก็ เปลี่ยนไปเป็น 
ระบบออโตเมติก   ซะเกือบหมดเช่นกันแต่สามเข้าใจนะ เวลาของทุกคนก็ มีความสำคัญ ว่ากันเรื่อง
”โรบอท” แล้วขอยาวหน่อยนะคะ(แหะๆ)โปรแกรมออโต้บอทความจริงแล้วถูกสร้างและพัฒนาโดย
ผู้ทำมีจุดประสงค์ เพื่อให้คนที่สูงอายุหรือคนที่มี สุขถาพร่างกายหรือข้อจำกัดทางร่างกายด้านต่างๆ 
ให้ใช้เพื่อตามเลเวลของกลุ่มเพื่อนๆทันไม่ถูกทิ้งห่าง เพื่อให้พวกเขามีความสุข  เหมือนคนธรรมดา 
(เคยอ่านเจอจากเวปไหนนี้แหละจำไม่ได้)  แม้ตอนหลังจะมีการลุกล่าม นำไปใช้กันอย่างเกิด

       ประโยชน์ต่อการหาแอร์ไทม์ อย่างสูงสุดก็ตามโดยส่วนตัว สามก็ไม่ได้รังเกียจหรอกนะคนเรา
มีภาระหน้าที่ต่างๆมากมาย    ให้มาจมอยู่แบบนี้ก็ไม่ได้   แต่พอบอกว่าเล่นมือปุปใครหลายๆคนจะ
ทำหน้าเอ๋อๆ   แล้วถามกลับมาคล้ายๆว่า  ทำไปทำไม  ทำเพื่ออะไร ทำไมต้องเล่นนานขนาดไหน 
หมดเวลาในชีวิตไปมากเท่าไหร่ ไม่กลัวหลังเสีย  นิ้วล็อกเหรอ เอาจริงๆสามจัดเป็นคนที่ขี้เกียจเก็บ
เลเวลมากๆด้วยซ้ำ  มานั่งทิ้งไว้เฉยๆก็บ่อยไป   วันออกรอบจริงๆมีน้อย (แต่เอาทีให้คุ้มแหะๆ)  ทุก
อาชีพมีที่ไป    ทุกเลเวลมีทางออก  ถ้าเราหาที่ๆเหมาะสมกับตัวเองเจอ สำหรับอาชีพพระของสาม 
หากินกับ "อันเดธ" มาตลอดและจะยังทำต่อไปเรื่อยๆ   เวลาเห็นอันเดธ เลเวลสูงๆ Hp แยะๆโดนที
เดียวตายต่อหน้ามันสะใจอย่างบอกไม่ถูก(แผลบ)ทำบ่อยๆจนเสพติดเป็น อาจิญ เลิกที่ถ้ำ กระบอก
ก็ไม่หาย แต่ให้ไปตีมอนทีละตัวแบบนักรบ ขอบายคะ ขนาดเป็นโรบอทก็ไม่ได้บอทง่ายๆต้องหาที่ๆ 
เหมาะจริงๆดีจริงๆถึงจะไปปล่อยใช่ม้า คนที่ประสบความล้มเหลวในการบอทก็มีถ่มไป โดยร่วมสาม
ยังให้ ความเคารพกับคนในแคลนเรานะ   ถึงพวกเราจะบอทแต่ก็ไม่เคยลืมเวลาต้องเล่นมือ หรือไป
ล่าเรดใหญ่ๆ ผิดกับหลายคนที่บอท จนลืมเล่นมือกันไปหมดแล้ว กลับมาเรื่องแคลนต่อกันดีกว่า   

        ในระหว่างที่เรายังเร่ร่อน แต่ก็มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาเรื่อยๆระหว่างนี้แพทใหม่ อินเตอร์ลูทก็มา
พร้อมกับป้อม... ใช้แล้วละ เราเริ่มการตาม ล่าป้อมกันแล้ว วันแรกประเดิมกับป้อมรังผึ้งตีป้อมตอนนั้น
นรกแตกจริงๆ เรดวิซาร์ดกับไม้เท้า โคตรอาคาน่า ที่เอะอะๆระเบิดเกลียวหมู่และก็แน่นิ่งกันยกแคลน 
ประโจมไนท์ ที่สะกิดนิดเดียวก็วิ่งกลับไปฮิลทีเดียวเต็มหลอด   พวกเราพยายามนั่งขว้างไม่ให้ Npc 
กลับไปฮิล แต่ก็ไม่สำเร็จตอนหลังพี่สองลากไปทั่วจนหมดเวลา  โหดมันส์ ฮา มากกับการตีป้อมครั้ง
แรก ป้อมช่วงนั้นถ้ายึดได้แล้วก็ครองยาวๆถ้าไม่โดนชิงคืน พวกเราร่วมตัวกันไปตีป้อมที่ ทรมานที่สุด 

"ป้อมปั้นเขตผี"     


   
       ในเวลากลางคืนในเกมส์ถ้าใครไปลงทะเบียนจะเจอกับฝูง วิญญาณมากมายที่ประตูผีแม้เลเวล 
 80  ก็ดับง่ายๆถ้ามาตอนกลางคืน การลงทะเบียนเป็นไปอย่างยากลำบาก และต้องขอแรงจากแคลน
ใหญ่อื่นๆมาชวยตีแต่เราก็ทำให้เรามีป้อมปั้นเขตผีเป็นฐานอย่างยาวนานความมั่นคง   มั่งคั่งเลเวลคน
เก่าก็เริ่มสูง



 



       "แต่ผลึกแก้วแห่งความทรงจำดีๆของเรา...ก็ต้องมีรอยร้าวเกิดขึ้น"  

      เมื่อพี่สองยิงวอร์ไปหาแคลนเซงเกล (แบบเล่นๆ)และตั้งใจจะยกเลิกในตอนนั้น แต่คนในแคลน 
เซงเกลหลายๆคนไม่พอใจมากเพราะเข้าใจว่าจะเอาค่าเลืองชื่อจากการ Pvp แคลนคู่ฝั่งตรงข้ามและ
     แล้วไม่นานนักปัญหาก็ลุกล่ามเป็นแผลในใจลูกแคลนเก่าของเซงเกลขอถอนตัวไปจนเกือบหมด
เหลือเพียงแจง และพี่ไท เท่านั้นหลังจากปัญหานี้ยังมีการทะเลาะกันขั้นแตกหัก ของคนในแคลนอีก
ครั้งจากเรื่องราวที่ก็เกิดขึ้น ทำให้คนบางส่วนหายไปที่เซิฟ กัซติน ทั้งชั่วคราว  และถาวรในระหว่างที่
ภายในอ่อนแอ วันหนึ่ง สี่เห็นคนใน แคลนชาลอต(ตุ้งแหน่ง)ตายอยู่ที่วาคาซิเนโรจด้วยความใจดีของ
เค้า จึงทำการชุบให้ โดยไม่เอะใจแม้แต่น้อยว่าพวกเขามาทำอะไรกันที่นี้ แต่ไม่นานเราก็รู้ตำตอบเรา
ถูกตีป้อม (ทั้งๆที่ป้อมว่างอื่นก็ยังมี) จากแคลนชาลอตและยังพาพันธมิตร Ej เอ็กครูซิฟเจ๊กเกิลมาอีก
ด้วย แน่นอนเราแพ้ยับคะ ชาลอตสำหรับแคลนเราเขาคือคู่อาฆาตจากสงครามค่ายต่อต้านและการกระ
ทำครั้งนี้เป็นการย้ำแค้น ที่เจ็บแสบที่สุดและโปรดอย่าแปลกใจที่เวลาไปไหนมาไหนเมื่อเห็นธงนี้ 
อาการของ  สอง  สาม   สี่   จั้ม  และอีกหลายๆคนจะแปลกไป


    
        "ไม่ต้องตกใจคะ แค่สะกิดแผลเก่า!" 

        เราไม่มีป้อมไปอีกนานโขเลยทีเดียว ได้แต่เก็บอาการเอาไว้ แต่ฟ้าก็เป็นใจ เมื่อเราติดต่อแคลน
ใหญ่ขอให้ช่วยตีป้อมได้บ้าง    ในที่สุดป้อมปั้นเขตผีก็ตกเป็นของเราอีกครั้ง  แต่ก็ไม่มีความถาวรอยู่ดี 
คราวนี้แคลน POG  และ ฮีโร่ต่างๆตามมาตีป้อมของเราอีกแล้ว (คงพอรู้นะว่าเพราะแคลนอะไร) ครั้งนี้
เป็นสงครามใหญ่ที่เป็นวีรกรรมของเรา ที่สามารถกันป้อมได้ด้วยคนแค่ 3คนจากแคลน POG ตำนานกัน
ป้อมปั้นเขตผี ประกอบไปด้วย แจง สาม และ ต้อม   ด้วยการเปิดประตูป้อมและการฮิลนักธนูด้วย เรส
เทอร์ไลพ์ ระหว่างที่เข้าไปในป้อมอื่น ทำให้เรากันป้อมนี้ได้ สามสี่วันแม้เป็นเวลาไม่มาก แต่ก็พูดได้ว่า
เต็มที่แล้วกับคนแค่  3 คน หลังจากจบ สงครามครั้งนี้เราก็แทบไม่ได้กลับไปที่ป้อมปั้นเขตผีอีกเลยไม่
นานเกินรอ   NPC ป้อมทั้งหมดถูกปรับให้อ่อนแอลง   ทำให้เราไปตระเวนตีป้อมตามที่ต่างๆได้เองบ้าง  
และแล้วเราก็มาเจอบุคคลสำคัญ Draggon หรือพี่พี ที่ป้อมซากรถไฟ  หลังจากนั้นเราก็เร่รอนเปลี่ยน
ป้อมเรื่อยๆเรารับ  พี่สาว พี่โจ้ จักร เข้าแคลน จากคำแนะนำของลุงบิคไม่นานเราก็กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง




วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2556

Aren Kingdom : "ปฐมบท"

ท่ามกลางไฟสงครามที่แสนจะวุ่นวาย... คงไม่มีที่ไหนหรอกที่จะปลอดภัย...

                 ไม่มีเคยพบมิตรแท้ และศัตรูถาวร  มันคงเป็นจุดยืนไม่ดีเท่าไหร่ ...



   

      ครั้งแรกที่สามตัดสินใจ เลือกเกมส์นี้คงเพราะภาพที่สวยมากๆ และ กำลังติดนิยาย
ลินเนจอย่างง่้อมแงม ความจริงสามแค่ตั้งใจจะ ลองเล่นเฉยๆเองนะไม่เคยคิดว่าจะต้องมี
เพื่อน หรือต้องพึงพาใคร ไม่ได้อยากยิ่งใหญ่หรือเล่นเก่งๆ

       "แค่...อยากลอง สัมผัสบรรยากาศเท่านั้น"  

      ตอนที่ต้องเลือก  "อาชีพ" กับ "เผ่าพันธ์" ครั้งแรกไม่รู้จะมีใครเป็นเหมือนสามบ้าง
ครั้งแรกสามจริงจังมากๆ   ต้องนั่งเสียเวลา ดูข้อมูลในเวปไซต์พักใหญ่ๆเลยแหละ รู้สึก
กังวัลทั้งๆที่ไม่เคยเล่นเลยแท้ๆ   และสุดท้ายก็มาตกลง ปลงใจที่เผ่าเอลฟ์(ก็มันสวยที่
สุดนี้นา) และเลือกเล่นอาชีพฮิลเลอร์ เพราะรู้สึกว่าเป็นสายที่ ไม่ต้องพึงพาใคร
(ออราเคิล มีสกิล "ดิสครัปอันเดธ"เก็บเลเวลกับอันเดธได้)












   


 "แม้ตอนหลังทุกคนที่เจอต้อง ยิงคำถามว่าเล่นพระเอลฟ์ทำไม?พระเอลฟ์อ่อน(ซิกๆ)"

        L2 ใน ตอนนั้น ฮิลเลอร์ 3 เผ่า ไม่มีสกิลแปลงร่างวิซาร์ดไม่มีแม้แต่ เทรินอันเดธ
เวทย์ช่วยเหลือเพื่อนๆที่มี   ก็มีแค่ เวทย์ที่เด่นทางสายไนท์ พวกเพิ่มพลังป้องกันโล่ /
โอกาศป้องกันโล่/ป้องกันสตัน/ลดการใช้มานา/เพิ่มมานาให้เพื่อนๆ/ พระเอลฟ์เป็นอาชีพ
ที่ทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่เด่นสักอย่าง เช่น เรื่องฮิล ก็ฮิลแรงรองลงมาจากบิชอพเลยนะคะ
เวทย์ช่วยเหลือ   ก็เด่นรองลงมาจากพระดำ และ ยังดีกว่าเวทย์ของบิชอพ ฮิลได้บัพได้
แต่ไม่ดีที่สุดในทางใดทางหนึ่ง    ทำให้หลายๆคนมองข้ามไปในตอนนั้น แต่สามรู้สึกว่า
อาชีพนี้แหละเหมาะที่สุด  เพราะทำได้ทุกอย่าง และเผ่าเอลฟ์เป็นเผ่าที่มีสกิลซัพพอร์ต
ตัวเองได้ดีที่สุดเสมอ

       และแล้วก้ได้ออนเข้ามาสมใจอยาก ตอนแรกไม่ได้ทำอะไรเลย วิ่งไปมาด้วยเท้าไป
ทั่วทั้งเมืองเอลฟ์  แอบ เก็บเลเวล อยู่คนเดียวเพียงลำพัง เพราะไม่อยากผูกมัด แค่อยาก
ออนมาตอนไหนก็ได้ ทำอะไรที่อยากทำก็เท่านั้นเอง  พอได้เข้ามาเล่นจริงๆ ด้วยความที่
เราอินกับนิยายลินเนจอยู่แล้ว มาเจอเควสที่เป็นเรืองราวเข้าไปก็เกิดรู้สึกสนุก และสนุกมาก
เป็นความรู้สึกที่เคยลืมไปนานแล้ว    พอไปเจอชุดใหม่ๆในร้าน  ก็ เกิดอยากซื้อมาใส่บ้าง
แต่คนเล่นใหม่ต้องจนกรอบทุกคนคะแฮะๆตอนนั้น ค่อยๆหาเงินจากเควสเห็ดเพาะเชื้อและ
ไล่ไปเรื่อยๆกว่าจะรู้สึกตัวอีกที... สามรับเควสจนหมดเมืองเอลฟ์แล้วละคะ (แหะๆ)

      แต่ตอนนั้นเล่นไม่บ่อยเท่าตอนช่วงที่ติดๆหรอก กว่าจะเลเวล 22 เวลาก็ผ่านไป1เดือน
กว่าๆตอนนั้นมีวัตถุดิบเยอะแยะเลย สะสมจากมอนสเตอร์ แต่ก็ยังไม่รู้หรอกว่าต้องไปขาย
ที่ไหน(ยังไม่รู้จักตลาดกีรัน)ของที่ตั้งขายครั้งแรก เลยไปตั้งขายที่กลูดิน เพราะพระเอลฟ์
ต้องไปเปลี่ยนอาชีพที่นั้น   เราก็แค่อยากได้เงินมาซื้อของเกรด  D  จากร้านค้า มาใส่บ้าง
และเนื่องจากไม่เคยรู้ราคาทำให้ของที่ขายไปตอนนั้นขายในราคาถูกมาก  (จำได้คร่าวๆว่า
เหล็กขายไปอันละ 200)ไม่กี่อึดใจ ก็มีคนมาเหมาสินค้าไปจนหมด   แถมเขาคนนั้รยังชวน
สามไปพิชิตเรดบอสเป็นครั้งแรก

       (และตอนนั้นเอง ที่เปลี่ยนชีวิตเอลฟ์น้อยๆไปตลอดกาล....)




        เขาชื่อว่า (บอส) มากับเพื่อนของเขาอีกคนที่เป็นดาร์คเอลฟ์ การไปตีเรด ที่ค่ายร้าง
ครั้งแรก สนุึกมากจริงๆคะ แม้ตอนหลังจากจบการตีเรด จะมีปัญหาอะไร จนต้อง PKกัน (และ
แน่นอนฮิลเลอร์ผู้บอบบางโดนฆ่าคนแรก) แต่บอส กับ เพื่อน ก็ช่วยสามจนสุดความสามารถ
หลังจากเหตุการณ์นั้นเขาพาสามไป ลงดันเจี้ยนและพาไปเก็บเลเวลกันที่สุสานเครื่องสังเวย



       ด้วยคำชวนทำแคลนของเขาจึงกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของแคลนธงแดง (Emotion)



       สามเริ่มออนไลน์บ่อยขึ้น จากแคลนเล็กๆที่มีแค่ 3 คนค่อยๆได้เพื่อนจากในดันเจี้ยน
เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ   (สมัยนั้นยังตะโกนหาปาร์ตี้ในดันเจียน พอเจอคนไม่มีแคลนก็ชวนๆกันมา) 
จนเป็นแคลนระดับกลางๆ ในดันเจียนมีปัญหาการฆ่ากันบ่อยมากๆ จนครั้งหนึ่งที่แคลนเรา
โดนฆ่ายกแคลน ซึ่งตอนแรกเป็นเพียงความขัดแย้งของตัวเด็กๆจนกระทั่งมีตัวละครเกี่ยว
ข้องกับปราสาทเข้ามาด้วยทำให้บอสค่อนข้างเจ็บแค้นมาก ไม่นานนักเขาไปทำเรื่องอีกจนได้

       เมื่อบอสไปลงตีปราสาทกลูดิโอ้ (ตอนนั้นสามและเพื่อนๆเพิ่งเลเวล 40 เอง)และหลัง
จากวันนั้นเป็นต้นมาแคลน "อีโมชั่น" ก็กลายเป็นแคลนวอร์ที่เลเวลเฉลี่ย 35-55 (เอน็จอนาจ
มาก)แต่เอาจริงๆแคลนอีโมชั่น  ก็ไม่ได้มีฝ่าย หรือ มีอะไรกับเขาเลย  ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ MD
แคลน แยกตัวมาชนกับ ซุบพอดี ตอนนั้นแคลนมีปราสาทเป็นของฝ่ายซุบเปอร์ริโอ้ เราที่แค่
ไปลงตีเล่นๆแต่โดนไล่ฆ่าจริงๆก็ยังอยู่กันตรงนี้มาเรื่อยๆ  แม้ ทุกคนจะต้องก้มหน้าอยู่อย่าง
หลบๆซ่อนๆ  ด้วยเลเวลก็ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน  ของก็ไม่มีแถมโดนฆ่ากันเป็นอาจิญ แต่เราก็ไม่ยอม
ไปไหน อาจเพราะบอสเป็นคนที่ชอบเข้าหาเพื่อนๆ และเขามักยื่นมือไปหาทุกๆคนก่อนเสมอ
แม้การกระทำของเขาจะเป็นผลร้ายกับแคลนมากแต่เพื่อนๆ ก็ยังยอมเชื่อใจเขา

....แต่ แคลนอีโมชั่น ที่มีอนาคต กลับอยู่ได้ไม่นาน ก็ต้องแตกแยกกันไปเพราะอารมณ์ชัววูบ
ของ บอส  ที่มีคนมาว่าเรื่องที่เขาไม่เห็นใจคนอื่น ทำให้เพื่อนลำบาก เขาเลือกไล่ทุกคนออก
จากแคลน ในตอนเวลานั้น หลายๆคนยังคงมีความรักในแคลนอนี้อยู่นะ...   แต่แก้วที่แตกไป
แล้วไม่อาจประสานใหม่ได้อีก แม้ภายหลัง บอส จะมาพยายามตามเพื่อนๆทุกคนกลับไปอีก
ครั้ง

แต่ความเชื่อใจ มันคงไม่มีอีกแล้วละเรายังคงคุยด้วยกัน แต่ไม่มีใครคิดหันหลังกลับไปที่นั้นอีกเลย

แคลนอีโมชั่น..เดินทางมาถึงจุดจบในตอนนั้น




       หลังจากนั้นไม่นาน บอสชวนสามอยู่กับแคลนของพี่ชายเขาในแคลน King DragonII
เวลานั้นเป็นแคลนวอร์ ที่มีปราสาทอรินาดริล ในตอนนั้นสามเลเวล 50 กว่าๆแล้วละ เริ่มรู้สึกว่า
ตัวเองพูดมากขึ้นอยู่เหมือนกัน(แฮะๆ)   สามเข้าไปเล่นบอร์ดด้วย และได้เพื่อนๆจากที่นั้นมา
ก็มากหนึ่งในนั้นก็คือ หัวส้ม พี่ริน พี่แป้ง ลุงวิน และโคตรป๋าเลย ที่บ้านใหม่นี้ ได้สอนอะไร
หลายๆอย่างให้กับสาม อารมร์มันต่างกันมาก   ทั้งเพื่อนๆพี่ๆน้อง     เป็นอีกครั้งที่มี เพื่อนๆใน
แคลนพาไปเก็บเลเวล ช่วยทำเควส พาไปเทียวชมที่โหดๆเลเวลสูงๆ ร่วมถึงการทำชุดเสื้อหมาป่า
และตำราเรียนสกิลต่างๆ เป็นช่วงที่มีความสุขมาก รู้สึกว่าเรากลมเกลี้ยวและอบอุ่น

       จากบรรยากาศในแคลนใหม่นี้ แต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะราบรืนไปซะทีเดียว ในวันสงคราม
ชิงปราสาท คนที่สามต้องเป็นศัตรูกลับเป็นเพื่อนเก่าของ Emotion เป็นส่วนใหญ่ เราไม่เคยรู้
มาก่อนเลย แม้ว่าจะซิบคุยกันตลอด ต้องไปรู้ความจริงกัน ตอนอยู่ท่ามกลางสงครามเสียแล้ว...

          เพื่อน...ที่ช่วยกันเก็บเลเวลกัน  เคยมีความหวังความฝันมาด้วยกัน
ต้องมายืนอยู่ต่อหน้าอีกครั้งในฐานะฝั่งตรงข้าม


       พวกเราได้แต่ยืนอยู่เฉยๆให้เพื่อนๆของเราทั้ง  2  ฝ่ายถาโถมผ่านไป  จะมีก็แค่คำเรียก
ชื่อกันท่ามกลาง สนามรบแม้ KingDragonII จะดูยิ่งใหญ่มากสำหรับสามในตอนนั้นแต่ภายใน
กลับมีปัญหามากมาย ปัญหาที่เกิดจากการระแวงกันและกันต่างคนต่างมีเหตุผลที่ไม่ตรงกันเลย
การต้องทำตามคำสั่ง  และทิศทางของพันธมิตรแคลนวอร์   ไม่นาน(พี่แก้ว)ก็ทนไม่ไหว ขอตัว
ออกมาเพื่อทำแคลนใหม่ และได้ดึงคนบางส่วนออกไปด้วย    แม้พวกเราจะมีปราสาทแต่เราก็
ไม่ได้มีความสุขเลย   มีอยู่ครั้งหนึ่ง  เราเคยคุยกันว่าไม่มีความสุขไม่เหมือนตอนมีแค่ค่าย
        KingDragonII ของเราคงอยู่ไว้ได้ไม่นานเหมือน Emotion ตอนสุดท้ายก็ต้องยุบแคลน  
และออกมาทำแคลนใหม่ ที่ตั้งใจว่าไม่เกี่ยวข้องกับ ปราสาท หรือ สงครามอีก

แต่คนในสงครามนั้น...ราวกับต้องคำสาป..

          เพื่อนๆพี่ๆที่ถอนตัวออกมาจากสงครามแล้ว ก็ยังคงถูกตามระรานและรังความอยู่ร่ำไป
ไม่นานพวกเขาก็ทนไม่ไหว     และถูกดึงเข้าวังวนแห่งสงครามนี้อีกครั้ง บทสรุปครั้งนี้ก็ลงเอ่ย
เช่นเดิม การต่อสู้กันเอง ของเพื่อนร่วมรบใน KingdragonII

          ความรู้สึกตอนนั้น มันแย่มากๆ ทุกวันที่สามออนไลน์เข้าไปสามไม่รู้เลยว่าจุดยืนตัวเอง
อยู่ที่ไหน เราไม่มีวันรู้เลยว่าคนที่อยู่ด้วยกันตรงนี้จะอยู่ด้วยกันกับเราไปอีกนานแค่ไหน และก็
ทำอะไรไม่ได้ต้องอยู่กันอย่างหลบๆซ่อนๆ อยู่แบบนั้นรู้สึก เหนื่อยล้า จนไม่อยากทำอะไรเลย


         ไม่นานนักสายลมใหม่ก้พัดเข้ามา เมื่อ พี่สองกับ สี่  พี่น้องของสาม เข้ามาเล่นเกมส์ๆนี้
ด้วย  แม้เพื่อนเก่าหลายๆคนจะยุให้สาม รับพี่สอง กับ สี่เข้า มาในแคลนวอร์อีกครั้ง 

           "แต่ว่า...อย่าดีกว่า.. "

          ถ้าวันหนึ่งเหตุการณ์มันเปลี่ยนไปสามอาจต้องเจอ พี่สอง หรือ สี่ ในฐานะอื่นก็ได้ แต่...
ถ้าเราทำแคลนอยู่กันเองน่าจะดีกว่า...ถึงมันจะลำบากและอาจไม่ได้ดีเด่ หวือหวา เท่าคนแคลน
อื่นๆ มันยากอยู่พอตัวที่คนเล่นใหม่จะมาทำแคลนกันเองเลย โดยไม่มีเงิน  ไม่มีของ ไม่มีเลเวล  
แต่พวกเราก้เชื่อว่า มันเป็นทางที่มั่นคง และมี อิสระมากพอ  เราจะไม่อยู่ภายใต้อำนาจหรือการ
ตัดสินใจของใครอีก หรือ อย่างน้อยๆ พวกเราพี่น้องของเราก็ยังได้เลือกหนทางของตัวเองด้วย
ตัวเองได้   แม้จะมีคนมาถามกันมากว่า 

           "ทำใหม่ไปทำไม จะมีใครจะมาเข้า"
           "เป็นแคลนกลางมันเสียเปรียบ ใครๆก็รุมรังแกได้ง่ายๆขู่อะไรมาก็ได้"   


                 แต่แคลนกลางแคลนนี้  ไม่มีใครมาล้มลงได้ถ้าไม่ใช่มือของพวกเราเอง

แต่ก็นะ....ใครจะไปคิดแคลนที่ดาร์คเอลฟ์ไฟเตอร์เลเวล 10 สร้างจะมาได้ไกลขนาดนี้ 




Aren Kinkdom : บทที่ 1 "สงครามนูคาร์"


บทที่ 1 สงครามนูคาร์



           














                  สายสืบนูคาร์ 
                               เรดบอสเลเวล 35 แห่งค่ายต่อต้าน ดูๆไปก็แค่เรดเด็กๆตัวหนึ่ง(แต่อึด
บวกเกรียนโคตร) ไม่มีอะไรให้น่าจดจำนอกจากจะเป็นเรดตัวหนึ่ง แต่ใครเลยจะรู้ ว่านั้นเป็นความ
สำเร็จเล็กๆ และเป็นจุดเริ่มต้นของแคลนอเรนเชียวนะคะ


          ตอนสมัยยังเป็นเอลฟ์สาวๆ   พี่สองกับ สี่ เพิ่งมาเริ่มมาเล่นที่หลังและยังเลเวลต่ำเตี้ยเรี่ย
ดินทั้งคู่ แต่ในใจนั้นกลับหาได้กลัวเกรงสิ่งใด พวกเราได้มาประกาศกลางดีออนตามหาคนมาตีเรด
สายสืบนูคาร์ที่เมืองดีออนนี้แหละคะ ในตอนนั้นเกมส์ยังอยู่ในช่วงกลางๆคนเล่นใหม่ยังมีมาเรื่อยๆ
เมืองดีออนเป็นที่ๆวิเศษที่สุด  เหมือนเป็นศูนย์กลางของผู้เล่นใหม่ ที่นี้มีการตะโกนหาปาร์ตี้ล่าเรด
และเก็บเลเวลที่คึกคักมากๆที่นึง เหมาะแก่การรวบร่วมคนมาก

         ในช่วงแคลนเลเวลต้นๆ สี่มักไล่หาสมาชิกใหม่ๆ มาเสมอ เขาวิ่งไล่รับคนที่ผ่านมาแทบหมด
(แถมเกือบรับฮีโร่มาคน 1 ด้วย Oo) แคลนของเราอยู่ในช่วงที่สนุกมากๆ พี่ สองและสี่ยังได้รับความ
สนุก(ล่มจม)จากการตีบวกดาบที่ดีออนอีกด้วย  ตอนแรกตีบวกแข่งกันระหว่างพี่สอง กับ สี่ ตีบวกชุด
บรีกันดีน  กับ สี่ที่มาตีบวก ดาบยักษ์กากและได้รับคริสตัลทั้งคู่ และก็...ลำบากเราต้อง ไปหามาใหม่
ทั้งคู่ (ฮือๆซิกๆ)

          ที่ดีออนแห่งนี้เราอยู่กันนานมาก  เป็นเดือนๆเลย โดยเฉพาะสี่เป็นตัวตั้งตัวตีในการตีนูคาร์ไม่
ยอมไปเก็บเลเวลแบบคนอื่น     ไม่เคยไปไหนทั้งนั้นจะออนมาต่อสู้กับมันจน 40  นี้แหละ(ฮามากๆ) 
ปาร์ตี้ที่เราเจอก็แปลกใหม่ไม่เคยซ้ำกันเลยสักครั้ง  แม้จะมีบางวันที่ร่วมคนไม่ได้บ้าง และบางทีปาร์ตี้
ก็มีแต่ฮิลเลอร์ มีนักรบ 1 คนก็คือ 4    

     ส่วนมากปาร์ตี้จะไม่ค่อยมี ฮิลเลอร์    อาจเพราะ พระเป็นอาชีพลูกเมียน้อยเลยหาคนเล่นยากคะ
ดังนั้น   เราต้องใช้สายอาชีพที่ไกล้เคียงนั้นก็คือ "วิซาร์ด" ใช่คะปาร์ตี้เรดเด็กของเราส่วนใหญ่จะเอา
วิซาร์ด มาฮิลแทน   (และก็ยังมีบ่นกันบ่อยๆว่า "เฮ้ยทำไม วิซาร์ดไม่ฮิล")  ในการเริ่มต้นมักสวยงาม
เสมอแหละนะ ในช่วงนี้นั้นเองเราได้เจอพี่ไท (Chryzt) ที่ได้ร่วมมาตีเรดกับพี่ 2 อยู่บ่อยๆ(และก็พา
กันไปตี "อีคุนไท"เรดที่ซากแห่งความสิ้นหวัง) เราจะมีเรื่องราวของเขาในหน้าประวัติศาสตร์ อเรนบท
ถัดไปอีกด้วย ในตอนนั้นที่จริงรับคนมาแยะ เข้าออกผัดเปลี่ยนกันไปค่อนข้างไว เราเคยมีคน ต่างช่าติ
มาคนหนึ่งด้วย ชื่อไบรอัน มั้ง?  และผู้ชายปากดี   (อรินทรพินาศ)   หรือแหนมก็เข้ามาด้วยตอนนั้น
ยังมีผู้หญิงที่เป็นตัวตั้งตัวตี(Wอิงฟ้าW)(สามจำชื่อคนไม่ค่อยเก่งนะ - - )    

     จำได้ว่าพาพี่มาเข้าแคลนอีกคน เป็นซอเซอรเรอร์ชื่อโต้งมั้ง?และพี่ผู้หญิงอีกคนนึงพี่ปุ๊ก(โซอาวี)    
พวกเราร่วมตัวกระจุกกัน  อยู่ในแคลนเล็กๆ  แห่งนี้ที่ๆมีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ จนกระทั้งผ่านพ้น
เลเวล 40 มานานพอสมควร เราอยู่กันอย่างหลวมๆ ไม่มีของมีค่า หรือเลเวลสูงๆ จะมีก็แค่คำทักทาย
การคุย และ ชวนกันไปผจญภัยกับโขล่งมอนสเตอร์ในรูปแบบต่างๆ    




     จนกระทั่ง พี่สอง เริ่มคิดจะทำเควสแคลนเลเวล 4 เพื่อเพิ่มจำนวนคนที่รับได้ในแคลน นี้เป็นการจัด
กิจกรรมแคลนจริงๆครั้งแรกคะ พวกเราถึงมานัดร่วมตัวกัน เป็นครั้งแรก แต่ละคนก็ช่างตรงต่อเวลา(เลท
กันมากมายและเสมอต้นเสมอปลาย)  วันนั้นจำได้ดรว่า พี่สองวีนตั้งแต่งานแรกเลย(บุรุษผู้คงเส้นคงวา)
สามเชื่อนะ ว่าการทำเควสแคลนเลเวล 4 ครั้งแรก สำหรับคนที่เจอทุกคนที่เคยทำจะต้องรู้สึกว่า

            "มันเป็นอะไรที่โหดมันส์ฮาจริงๆคะ"



            ขั้นแรก จะต้องหาสัญลักษร์เควส มา 3 ชิ้นวิธีหาก็ง่ายๆ ให้ลูกแคลนไปวัดดวงกับแม่มด  3 คน     
ถ้าแม่มดพอใจ ก็บอกประมาณว่า "เจ้าเป็นคนมีความสัตย์ซื่อฯ" และก็มอบสัญลักษณ์มาง่ายๆ ส่วนใครที่
ดวงปกติๆ  ก็จะเป็น "สัญลักษณ์นั้นได้ซ่อนอยู่ในความตายของเจ้า" และเราก็ตายทันที ตายกลางอากาส 
เขาไม่ถงไม่ถามเรื่องสุขภาพสักคำ แถม %ลดฮวบๆ เมื่อรวบร่วมสัญลักษณ์ได้ครบ 3 ชิ้นแล้วให้ร่วมไว้ที่
หัวแคลน เราจะมาเริ่มทำเควสขั้นต่อไป

           ขั้นที่สอง  ให้หัวแคลนซดยาพิษซะเลือดลดฮวบฮาบ แถมเป็นพิษที่แก้ไม่ได้ ถ้าไม่ได้ยาแก้พิษ
แบบพิเศษ และแม่มดจะยอมบอกเมื่อซดเข้าไปแล้วเท่านั้น (สะดุ้งเฮือก) โชคดีที่ตอนนั้นโยนตำแหน่งหัว
แคลนให้ดรอฟของพี่ปุ๊ก  (เพราะการอัพแคลนจะเสียเอสพีจำนวนมากและตอนนั้นเอสพีหายากมาก) และ
เราก็จัดปาร์ตี้   ออกตามหา   ยาแก้พิษ จากมอนสเตอร์ วิ่งหาเจอมั้งไม่เจอมั้ง เลือดก็ลดไวขึ้นเรื่อยๆ  เรา
วิ่งไป หาสมุนไพรจาก มอนสเตอร์พ่อหมด หมอผี 3 ที่ (ป่ากระจก / ป่าอสูร/ ที่ราบข้างเมืองอาเดน) 
และไปหาแม่มดที่สำนักฮาดินเพื่อทำลายหีบ

          เนื่องจาก ในเวลาและเงือนไขแสนยากเย็น รอบแรก...ดรอฟพี่ปุ๊กตายอนาจ!!  
เราเลยต้องทำต่อรอบ  2  รอบนี้ต้องแวะไปถาม GMด้วย เพราะติดปัญหา เรื่องไอเทมชุดแรกที่ได้มาต้อง
ทำลายทิ้ง แต่ในรอบที่สองเรารู้สถานที และเริ่ม"เป็นงาน"     กันแล้วแม้จะยากลำบากแค่ไหนแต่ในที่สุด
เราก็ได้ทำได้เราทำเควสผ่านและอัพแคลนเลเวล 4 คะ