วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ปกรณัม : ลินเนจ 2 บทที่ 2 กำเนิดแห่งเผ่าพันธุ์

        เรื่องราว  หลังจากที่ก่อกำเนิดทวยเทพ     และโลก   Lineage2 ได้ผ่านสายตา
ของท่านไปบ้างแล้ว  อาจมีหลายคนส่งเสียงคัดค้าน  เรื่องเผ่าพันธุ์ อื่นละ และคง มี
ข้อสงสัยกันไปต่างๆนาๆ ไม่ต้องรีบคะ นิทานเรื่องนี้ยังอีกยาวไกล...




        หลังจากที่ไอซัสซัดได้ให้กำเนิด เหล่ายักษ์ ผู้เต็มไปด้วยความรู้ และกำลังไม่นาน
พวกเขาก็ได้  สร้างระบบการปกครองของพวกเขาแต่งตั้ง     ราชาของเหล่ายักษ์  สร้าง
อาณาจักรแห่งพื้นพิภพ  เอาไว้  มากมาย ไม่ว่าจะเป็น          วิทยาการของรถไฟลอยฟ้า
หอคอยที่มีระบบ ป้องกันตัวเองเช่น  "หอคอยครู่ม่า" และสิ่งต่างๆมากมาย เหล่าทวยเทพ
เริ่มเข้าสู่ความเบื่อหน่ายอีกครั้งและครั้งนี้เหล่าบุตรแห่งเทพีไอซ์ฮัสซัด และ เทพกรังไคน์
ก็อยากให้กำเนิดเผ่าพันธ์ของตนเองบ้าง


      เทพีชินเลน ธิดาเทพคนโต ได้ให้ใช้พลังของตนเองให้กำเนิดเผ่าพันธุ์ แห่งสายน้ำ
เอลฟ์สีเทา แต่เนื่องจากรูปการเอลฟ์ครั้งแรกนั้นมีสีสัน   และรูปกายผิดไปจาก ไอฮัดซัส
ทำให้ ชิลเลนต้อง    ใช้พลังของเธอให้กำเนิดเผ่าพันธุ์       ใหม่อีกครั้ง  ผลลัพธ์ที่ได้คือ
เอลฟ์น้ำตาล       ผู้บอบบางและสว่างไสว ราวกับไอฮัสซัด หรือเอลฟ์ต้นไม้  เอลฟ์ทั้งคู่
ก็ยังมี ความละม้าย คลายคลึงกันมาก และ  อาศัยอยู่ร่วมกัน ถายใต้    มารดาคนเดียวกัน  
นั้นคือ เทพีแห่งสายน้ำ   ชิลเลน เอลฟ์เป็นเผ่าที่รวดเร็วและว่องไวมาก   พวกเขางดงาม
และ  ชาญฉลาด แต่ชีวิต ของพวกเขาได้ผูกติดกับต้นไม้มารดา   อันเป็นแหล่งพลังชีวิต
เหล่าเอลฟ์ทั้งหลาย  ในเวลาต่อมาพลังของ  พวกเขาก็คือ พลังแห่ง สายน้ำ สายลม และ
ธรรมชาิติ





         เทพพรากีโอ้ ก็ได้ใช้พลังของต้นเอง ก่อกำเนิดชีวิตใหม่ ได้แก่ เผ่าพันธ์ ออค   นอกจาก
พรากีโอ้ จะให้กำเนิดเผ่าพันธ์ออคแล้ว    เขา ยังคงสอนวิชา มนต์บทแห่งเปลวไฟแห่งชีวิต  ให้
กับออคทั้งหลายอีก   ด้วย แม้เผ่าพันธ์ออค จะเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและพลัง  แต่บุคลที่พวก
เขา นับถือในหมู่ออคด้วยกันกลับเป็น

           "ออคผู้ที่ทรงพลังอำนาจแห่งเปลวไฟ" 

ผู้นำของเขา   จะได้รับฉายาว่า โอเวอร์ลอด ผู้นำหายนะแห่งสงคราม ใน ครั้งแรกที่เผ่าพันธ์ออค    
ยังร่วมตัวกัน จากหลากหลายความแตกต่าง (แตกเผ่าย่อยมาอีก 6 -8 เผ่า)   เหล่าผู้วีรชนออค ได้
ตัดสินใจ บูชายัญ ตนเอง เพื่อเป็นเปลวไฟแห่งชีวิตคอยปกปักดูแลลูกหลานสืบต่อไปแต่ ในภาย
หลัง  เผ่าออคเองก็เกิดการทรยศขึ้น ในเผ่าของตนเองในตอนท้ายที่สุดเผ่าที่ได้เป็นหัวหน้าแห่ง
เผ่าพันธ์ออคก็คือ เฮสโทมาทุย หรือเผ่าออคที่เรา สามารถเลือกเล่นได้นั้นเอง



             เทพซายฮา     ได้ให้กำเนิด สิ่งมีชีวิตด้วยเช่นกันนั้นคืออาร์เทีย แต่ก็เช่นเคย สิ่งที่เขาให้
กำเนิด เป็นเพียงวิญญาณแห่งสายลม เจตทูติ แห่งลมนั้น รักอิสระ ล่องลอยไปตามที่ต่างๆ  โดย
ไม่ไยดี ยึดติดต่อสิ่งใดเหมือนดังเทพผู้สร้าง เจตทูตินั้น มีความกระหายใครรู้มากมาย แต่หากถูก
นำมาจับขังเอาไว้ พวกเขาจะเสียชีวิตในเวลาไม่นาน

             เทพีมาเฟอร์     ได้ให้กำเนิด  เผ่าพันธ์ ตาแก่ กับ โลลิให้กำเนิดเผ่าพันธุ์ดรอฟ   ผู้กำเนิด
จากพื้นดิน พวกเขามีความเข้าใจ        ในวิทยาการต่างๆได้ว่องไวมาก  บวกกับที่กำเนิดมาจากพื้น
พิภพ  สินแร่ต่างๆ นอกจาก  จะเป็นสมบัติของมาเฟอร์แล้วก็ยังเหมือนสมบัติ  ของพวกเขาอีกด้วย
ด้วยคุณสมบัติสองข้อนี้ทำให้ อาวุธยุทโธปกณ์  จากดรอฟ์ ดูพอเศษ และเลิศเลอกว่าของผู้ใดแม้
แต่เหล่ายักษ์ยังต้อง ยกนิ้วให้ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของพวกเขาคือ
"หลงไหลในวิทยาการ และ เงินตรา"






      เหล่าเผ่าพันธุ์ใหม่ ทยอยลืมตาเกิดขึ้นมาในโลก นอกจากชีวิตใหม่นี้  จะเป็นความบันเทิงแก่
เหล่าทวยเทพแล้ว    ยังคงเป็นประโยชน์แก่ อีกเผ่าพันธ์ด้วย            

       ใช่แล้ว เผ่าพันธ์  ที่เกิดมาพวกแรก "เผ่าพันธุ์ยักษ์"

       ยักษ์ ได้ตระหนักถึง  ความเฉลียวฉลาดของเอลฟ์   ยักษ์จึงดึงเอลฟ์เข้ามาทำหน้าที่ การจัดการ
การบัญชี และ   บรรณาลักษณ์ เอลฟ์นั้น   ไม่ค่อยมีความรู้สึกของตัวเองสักเท่าไหร่   อาจเพราะ
พวกเขาอยู่กับ ธรรมชาติ มาโดยตลอด หากนั้นไม่ใช่สิ่งที่ผิด  พวกเขาก็ไม่มีเหตุผล ต้องปฏิเสธ

      ยักษ์ ได้ดึงออคเข้ามาในงานหนัก ที่ต้องใช้แรงงาน ในการสงคราม และ ก่อสร้างด้วยความ
เคารพในความแข็งแกร่งของยักษ์   ออค จึงยอมเข้ามาช่วย

      ยักษ์ ได้ดึงดรอฟ์เข้ามาช่วยงาน    ด้านวิทยาการในการก่อสร้าง ต่างๆ ร่วมถึงผลงานการ
สร้างอาวุธยุทโธปกณ์  ทั้งหลาย ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ของดรอฟ์ทำให้พวกเขาก้ามเข้า
มาแทบในทันที

     ทุกเผ่าพันธ์ดำเนินไปอย่างสงบ  พวกเขาให้ความเคารพซึ่งกัน  และกันและ   บูชาทวยเทพ
ผู้ให้กำเนิดแก่พวกเขา ทุกอย่างก็ควรจะ  ดำเนินไปเช่นนั้นจนกระทั่ง เทพที่ไม่น่าจะให้กำเนิดสิ่งใด

      "อยากจะสร้างเผ่าพันธ์ของตนเองขึ้น"

     มหาเทพกรังไคน์  เมื่อเห็น พระชายา และลูกๆของตนให้กำเนิดสิ่งมีชีวิต  กำเนิดเผ่าพันธ์ใหม่ๆ
ช่างเป็นความบันเทิงเสียเหลือเกินการเฝ้าดูเหล่า   ชีวิตใหม่มันช่างน่าตืนตาตืนใจ แต่คงจะดีไม่น้อ
หากเขาได้ให้กำเนิด เผ่าพันธ์ของเขาเองบ้าง

      เทพแห่งการทำลายล้างกรังไคน์ ไม่มีอะไรเลย นอกจากพลังทำลายพลังของเขา  ไม่อาจก่อ
เกิดชีวิตใดๆได้ เขาได้ไปขอร้องพระชายา ของเขา เทพแห่งแสงไอฮัสซัด

      "หน้าที่ของคือการทำลายล้าง สิ่งที่ท่านสร้างรังจะก่อให้เกิดแต่หายนะก็เท่านั้น"

      ไอฮัสซัดปฎิเสธ อย่างไม่ใยดี เขาจึงต้องบากหน้าไปหาบุตรของเขาแทนและลูกๆของเขาก็
ใจอ่อน

เทพีชิลเลน 

     "ท่านพ่อค่ะ ข้าใช้พลังในการกำเนิดเผ่าพันธ์เอลฟ์ไปจนหมดแล้ว...เหลือแต่พลังแห่งน้ำที่นิ่ง
และเน่าเสีย นี้เท่านั้น ท่านพ่อไม่ควรนำมันไปใช้หรอก"กรังไคน์ ยิ้มมุมปากและจากไป

เทพพรากีโอ

      "บิดาข้า ตัวข้าได้ใช้พลังเปลวไฟแห่งชีวิตให้กำเนิดเผ่าพันธืออคมากมาย และยังใช้ไฟของข้า
เพื่อพวกเขามีพลัง ตอนนี้ข้า เหลือแต่เถ้าไฟที่ไกล้มอด ท่าน อย่าได้เอาไปใช้เพื่อการใดๆเลย"
กรังไคน์หัวเราะเบาๆและจากไป

ซายฮา
      "พ่อ พลังของข้า ได้ให้กำเนิดเหล่าเจตทูตแห่งสายลมไปหมดแล้ว ที่ยังเหลือ มีเพียงสายลมที่
เกรี้ยวกราด ท่านยังมีความต้องการในสายลมเน่าเหม็นนี้เช่นนั้นหรือ" กรังไคน์ยิ้มตอบอย่างพอใจ
จนซายฮาได้แต่ถอนหายใจ

มาเฟอร์ 
       "พ่อข้า ตัวข้านั้นก็มีเพียง ดินที่แห้งแลงและสกปรกจนไม่อาจหาประโยชน์ใดๆได้ ท่านต้องการ
มันอีกหรือ"แม้มาร์เฟอร์จะขอร้องด้วยน้ำตาที่นองหน้า แต่ผู้เป็นบิดาหาได้รู้สึกรู้สาใดไม่
       "มากกว่าที่เจ้าคิด" กรังไคน์ตอบอย่างไม่ลังเล

         แม้เหล่าลูกๆของเขาจะคัดค้าน    แต่สำหรับกรังไคน์แล้ว มันเหมือนการท้าทาย   ในเมื่อเทพ
ทุกองค์ต่างให้กำเนิดสิ่งมี ชีวิตต่างๆได้มากมาย     แล้วทำไมเขาจะให้กำเนิดบ้างไม่ได้ สิ่งที่จะทำ
ออกมาจากน้ำมือของเขา จะต้องวิเศษเหนื่อสิ่งอื่นใด ด้วยจิตวิญญาณแห่ง น้ำ ไฟ ลม และ ดิน
สุดยอดเผ่าพันธ์เหนื่อ กว่าที่ทุกเผ่าพันธ์เคยมีมาจะบังเกิด  และเขาจะพิสูจน์มันเดียวนี้...


        แต่ทว่ากรังไคน์คงลืมคิดไปว่า ด้วยพลังของน้ำที่นิ่งและเน่าเสีย จากชิลเลน เปลวไฟที่ไกล้มอด
ดับ จากพรากีโอ้ สายลมที่  เกรี้ยวกราดของซายฮา    และ ดินที่แห้งแล้ง และสกปรกที่หา    ประโยชน์
ไม่ได้ของ มาเฟอร์ ร่วมกับพลังของเขา เผ่าพันธ์ใหม่ได้ ถือกำเนิดขึ้นมา

         เผ่าพันธ์มนุษย์ ...เผ่าพันธ์ ที่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงดังออค ไม่มี ความชาญฉลาดแบบเอลฟ์ ไม่มี
ความรอบคอบแบบดรอฟ์ ไม่มีแม้แต่ปีก แบบ เจตทูต ของซายฮา...          พวกเขาไม่มีอะไรเลย
แถมยังอายุสั้นที่สุดในบรรดาเผ่าพันธุ์ทั้งหมด

แม้แต่ ยักษ์ เองก็ยังคาดหวังอะไรไม่ได้จากมนุษย์ และบังคับ พวกเขาให้มาเป็นทาส  กรังไคน์ผิด
หวังอย่างมาก เพราะว่าเขา ไม่ฟังคำทักท้วงของเหล่าลูกๆและชา หรือเปล่า

ทำไม? เผ่าพันธุ์ที่เกิดจากมหาเทพแห่งการทำลายล้าง.... ถึงไร้ค่าถึงเพียงนี้เชียวหรือ...

กรังไคน์ ได้แต่โทษตัวเอง และเลิกสนใจในมนุษย์ไปในที่สุด


















1 ความคิดเห็น: