วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ปกรณัม : ลินเนจ 2 บทที่ 5 ปลดผนึก สปิคูล่าคามาเอล

สปิคูล่าคามาเอล ได้เปลี่ยนแปลงสถาณการณ์ทุกอย่างให้กลับตาลปัตรไปหมด!

            พลังอันยิ่งใหญ่ ของเทพธิดาแห่งแสงทั้ง 9 ไม่ได้ถูกออกแบบให้มาทำลาย
สปิคูล่า  กลับกันกับ สปิคูล่าต่างหาก ที่ถูกออกแบบมาเพื่อ สังหารพระเจ้าโดยเฉพาะ

ด้วยปีกที่ทำให้ต่อสู้ได้ทัดเทียมกับเทพ ร่างกายที่เล็ก ทำให้ว่องไว และหลบหลีกได้ง่าย
แถมกายอาบด้วยพลังแห่งความมืด ที่เกิดจากความตาย ทำให้สามารถสร้างบาดแผล
ให้กับเหล่าเทพได้ไม่ยากเลย

             ในขณะที่ เหล่าเทพธิดาแห่งแสง ร่วมถึงไอฮัดซัส กำลังสับสนกับสิ่งที่เกิืดขึ้น
ตรงหน้า สปิคูล่า ตนหนึ่งได้หยิบ ดาบยักษ์ เอมานูแอลลิช ขึ้นมา ตวัดดาบขึ้นไปบน
ปลายฟ้า ด้วยพลังของดาบทำให้ท้องฟ้าฉีกออก และ เสื้อคลุมของไอฮัดซัส ที่ทำจาก
เทพธิดาองค์ที่ 2 เพื่อเป็นเกราะ ได้ขาดวิ่น เกิดบาดแผลขึ้น บนผิวกาย ที่ขาวพิสุธ ของ
เทพีไอฮัดซัส...

ไอฮัสซัสได้ถ่อยออกมาจาก สงครามพร้อมเทพธิดาทั้ง 9 นี้เป็นความพ่ายแพ้ครั้งแรก

          เหล่ายักษ์ได้ยินดีโห่ร้อง กันยกใหญ่กับความสำเร็จที่อยู่ตรงหน้าโดยหารู้ไม่ว่า...

"หายนะครั้งใหญ่กำลังจะมาเยือนพวกเขา"

          เทพีไอฮัสซัสโกรธา มาก อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
แม้เธอจะเคยเอ็นดูพวกยักษ์ แต่ด้วยสิ่งที่เรียกว่า คามาเอล  และ สิ่งที่พวก ยักษ์ได้ทำ
ไอฮัสซัสไม่ลังเล ที่จะ ทำลายล้างเหล่า ยักษ์อีกต่อไป  และมุ่งหน้าไปหา
"Rain of Coloress Fires"
โดยไม่สนว่ามันจะ เพื่อมอบความตายให้กับทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้



เทพเจ้ากรังไคน์ รู้ทันและมาดักรอไว้ก่อนแล้ว เขาห้ามปรามไม่ให้ ไออัดซัสใช้ ด้วยเหตุผลที่ว่า
     
           "หน้าที่ทำลายล้างนี้...ไม่ใช่หน้าทีของเทพีผู้สร้าง "

          แต่กรังไคน์ก็รู้ดีว่าเพลิงแค้น ที่ลุกโชติในอก ไอฮัสซัส ไม่อาจสงบลงได้
มหาเทพกรังไคน์ยื่นขอเสนอ ให้ เธอ ยืม อาวุธประจำตัวของเขา และให้ใช้ได้
เพียงครั้งเดียวเท่านั้นเมื่อไอฮัสซัด ได้ยินดังนั้น ท่าทีของเธอ จึงสงบลง ไม่ใช่
เพราะว่า เสียใจ หรือเคืองโกรธมหาเทพเธอกำลังดีใจมากกว่า เพราะ ไอฮัสซัส
รู้ดีว่า ด้วยอำนาจของ ค้อนดารา นั้น มันมากพอ ที่จะ ทำลายล้างสิ่งที่เธอต้องการ
ในชั่วพริบตา ไม่รอช้า ไอฮัสซัส มุ่งเป้าหมายไปที่ เมืองหลวงของยักษ์ ที่ขณะนั้น
กำลังฉลองชัยชนะ ที่มีชัยเหนือเทพเจ้าได้ ผลจาก ค้อนดวงดารานั้น ทำให้
กองทัพยักษ์ และ สปิคูล่าคามาเอล เสียชีวิตไปจนเกือบหมด ...

เหล่ายักษ์ที่เหลือได้หลบหนีจากแรงอาฆาตของไออัสซัสไปตามที่ต่างๆ

           สงครามแห่งแค้นของไออัสซัสค่อยๆปิดฉากลง เมื่อเหล่ายักษ์ค่อยๆล้มตาย และเปลี่ยน
ตัวเองเป็นยักษ์กาก จนเกือบหมด  และหลบไปยัง "ถ้ำยักษ์" (giant cave)



แต่ไอฮัดซัสยังไม่หยุดมือ และกำลังจะฆ่าเหล่ายักษ์พวก
สุดท้าย อาจจะด้วยความสงสาร หรืออะไรก็ตาม ทำให้ กรังไคน์ได้ล้อมขุนเขากั้นไออัดซัสเอาไว้ 
และ ขอร้อง นางให้ไว้ชีวิตยักษ์ที่เหลือ ยักษ์ตนสุดท้ายเอาไว้ ในที่สุดเธอก็ยอมรามือ และ หุบเขา
แห่งนี้จึงได้ชื่อว่า  "หุบเขาสันติ" (Silent Valley)


ทุกอย่าง ควรจะสิ้นสุดลงตรงนี้...
หลังจากนั้น ไปหลายพันปี พลังของชิลเลน ที่ฝังตัวพร้อมกับสาวก ในโลกของคนตาย
กล้าแข็งมากขึ้น ไอฮัดซัส จำต้องใช้พลังมากขึ้นในการผนึกชิลเลน เทพีอีวา รู้เรื่องเหล่านี้ดี
ร่วมถึงรู้ด้วยว่า เพลิงแค้นของ ไออัดซัสได้เบาบางลงมาก

             อีวาคิดว่า พลังของ  นักฆ่าอมตะ (Immortal Killer) หรือ คามาเอล จะต้องจำเป็น
สำหรับ กาลภายหน้า  เธอจึงมี   ความคิดที่จะ ปลุกพลังของสปิคูล่า ออกจากการถูกสะกด 
จะเพราะเหตุบังเอิญ หรืออะไรก็มิทราบได้ เผ่าพันธ์ทั้ง 5 ได้ล่วงรู้ถึงการมีตัวตนของคามาเอล
เกือบจะพร้อมๆกัน เรื่องราวของคามาเอล ได้แพร่กระจาย ออกจากนักเดินทางดรอฟคนหนึ่ง  
เช่นเดียวกับที่ห้องหนังสือลับของรูน ได้พบข้อมูลบันทึกลึกลับ เกี่ยวกับคามาเอล และ มีงาน
วิจัยส่วนหนึ่งที่ถูกแปลแล้ว อยู่ที่หอคอยงาช้าง ถูกค้นพบในเวลาเดียวกัน
ตรงกับคำทำนายชอง เทพพยากรณ์ ซึ่งเขาได้คาดการณ์ไว้ว่า จะพบขุมพลังใหม่จากทิศตะวันตก
และข้อมูลนี้ก็ตรงกับ ข่าวลึกลับที่ชาวประมงได้พบเกาะลึกลับ ทางทิศนั้นพอดิบพอดี บรรดา
ผู้นำแต่ละเผ่าได้ออกไปรวบร่วมข้อมูลใหม่นี้และเอลฟ์ผู้รวดเร็วกว่าใคร ได้ทำการติดต่อ
ผู้นำ เผ่าอื่นๆ เพื่อหารือเรืองนี้ การประชุมได้ถูกจัดขึ้น และ มนุษย์ พวกเขาตัดสินใจ จะต้อนรับ
พวกเขาเหล่านี้ เพราะ คามาเอลในเวลานี้ได้เป็นคนของเทพีอีวาแล้ว และ พวกเขาตัดสินใจ
จะดำเนินชีวิตในรูปแบบเดิม มากกว่าจะต้องเผชิญหน้ากันแบบมอนสเตอร์





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น