วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2556

Aren Kingdom : "ปฐมบท"

ท่ามกลางไฟสงครามที่แสนจะวุ่นวาย... คงไม่มีที่ไหนหรอกที่จะปลอดภัย...

                 ไม่มีเคยพบมิตรแท้ และศัตรูถาวร  มันคงเป็นจุดยืนไม่ดีเท่าไหร่ ...



   

      ครั้งแรกที่สามตัดสินใจ เลือกเกมส์นี้คงเพราะภาพที่สวยมากๆ และ กำลังติดนิยาย
ลินเนจอย่างง่้อมแงม ความจริงสามแค่ตั้งใจจะ ลองเล่นเฉยๆเองนะไม่เคยคิดว่าจะต้องมี
เพื่อน หรือต้องพึงพาใคร ไม่ได้อยากยิ่งใหญ่หรือเล่นเก่งๆ

       "แค่...อยากลอง สัมผัสบรรยากาศเท่านั้น"  

      ตอนที่ต้องเลือก  "อาชีพ" กับ "เผ่าพันธ์" ครั้งแรกไม่รู้จะมีใครเป็นเหมือนสามบ้าง
ครั้งแรกสามจริงจังมากๆ   ต้องนั่งเสียเวลา ดูข้อมูลในเวปไซต์พักใหญ่ๆเลยแหละ รู้สึก
กังวัลทั้งๆที่ไม่เคยเล่นเลยแท้ๆ   และสุดท้ายก็มาตกลง ปลงใจที่เผ่าเอลฟ์(ก็มันสวยที่
สุดนี้นา) และเลือกเล่นอาชีพฮิลเลอร์ เพราะรู้สึกว่าเป็นสายที่ ไม่ต้องพึงพาใคร
(ออราเคิล มีสกิล "ดิสครัปอันเดธ"เก็บเลเวลกับอันเดธได้)












   


 "แม้ตอนหลังทุกคนที่เจอต้อง ยิงคำถามว่าเล่นพระเอลฟ์ทำไม?พระเอลฟ์อ่อน(ซิกๆ)"

        L2 ใน ตอนนั้น ฮิลเลอร์ 3 เผ่า ไม่มีสกิลแปลงร่างวิซาร์ดไม่มีแม้แต่ เทรินอันเดธ
เวทย์ช่วยเหลือเพื่อนๆที่มี   ก็มีแค่ เวทย์ที่เด่นทางสายไนท์ พวกเพิ่มพลังป้องกันโล่ /
โอกาศป้องกันโล่/ป้องกันสตัน/ลดการใช้มานา/เพิ่มมานาให้เพื่อนๆ/ พระเอลฟ์เป็นอาชีพ
ที่ทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่เด่นสักอย่าง เช่น เรื่องฮิล ก็ฮิลแรงรองลงมาจากบิชอพเลยนะคะ
เวทย์ช่วยเหลือ   ก็เด่นรองลงมาจากพระดำ และ ยังดีกว่าเวทย์ของบิชอพ ฮิลได้บัพได้
แต่ไม่ดีที่สุดในทางใดทางหนึ่ง    ทำให้หลายๆคนมองข้ามไปในตอนนั้น แต่สามรู้สึกว่า
อาชีพนี้แหละเหมาะที่สุด  เพราะทำได้ทุกอย่าง และเผ่าเอลฟ์เป็นเผ่าที่มีสกิลซัพพอร์ต
ตัวเองได้ดีที่สุดเสมอ

       และแล้วก้ได้ออนเข้ามาสมใจอยาก ตอนแรกไม่ได้ทำอะไรเลย วิ่งไปมาด้วยเท้าไป
ทั่วทั้งเมืองเอลฟ์  แอบ เก็บเลเวล อยู่คนเดียวเพียงลำพัง เพราะไม่อยากผูกมัด แค่อยาก
ออนมาตอนไหนก็ได้ ทำอะไรที่อยากทำก็เท่านั้นเอง  พอได้เข้ามาเล่นจริงๆ ด้วยความที่
เราอินกับนิยายลินเนจอยู่แล้ว มาเจอเควสที่เป็นเรืองราวเข้าไปก็เกิดรู้สึกสนุก และสนุกมาก
เป็นความรู้สึกที่เคยลืมไปนานแล้ว    พอไปเจอชุดใหม่ๆในร้าน  ก็ เกิดอยากซื้อมาใส่บ้าง
แต่คนเล่นใหม่ต้องจนกรอบทุกคนคะแฮะๆตอนนั้น ค่อยๆหาเงินจากเควสเห็ดเพาะเชื้อและ
ไล่ไปเรื่อยๆกว่าจะรู้สึกตัวอีกที... สามรับเควสจนหมดเมืองเอลฟ์แล้วละคะ (แหะๆ)

      แต่ตอนนั้นเล่นไม่บ่อยเท่าตอนช่วงที่ติดๆหรอก กว่าจะเลเวล 22 เวลาก็ผ่านไป1เดือน
กว่าๆตอนนั้นมีวัตถุดิบเยอะแยะเลย สะสมจากมอนสเตอร์ แต่ก็ยังไม่รู้หรอกว่าต้องไปขาย
ที่ไหน(ยังไม่รู้จักตลาดกีรัน)ของที่ตั้งขายครั้งแรก เลยไปตั้งขายที่กลูดิน เพราะพระเอลฟ์
ต้องไปเปลี่ยนอาชีพที่นั้น   เราก็แค่อยากได้เงินมาซื้อของเกรด  D  จากร้านค้า มาใส่บ้าง
และเนื่องจากไม่เคยรู้ราคาทำให้ของที่ขายไปตอนนั้นขายในราคาถูกมาก  (จำได้คร่าวๆว่า
เหล็กขายไปอันละ 200)ไม่กี่อึดใจ ก็มีคนมาเหมาสินค้าไปจนหมด   แถมเขาคนนั้รยังชวน
สามไปพิชิตเรดบอสเป็นครั้งแรก

       (และตอนนั้นเอง ที่เปลี่ยนชีวิตเอลฟ์น้อยๆไปตลอดกาล....)




        เขาชื่อว่า (บอส) มากับเพื่อนของเขาอีกคนที่เป็นดาร์คเอลฟ์ การไปตีเรด ที่ค่ายร้าง
ครั้งแรก สนุึกมากจริงๆคะ แม้ตอนหลังจากจบการตีเรด จะมีปัญหาอะไร จนต้อง PKกัน (และ
แน่นอนฮิลเลอร์ผู้บอบบางโดนฆ่าคนแรก) แต่บอส กับ เพื่อน ก็ช่วยสามจนสุดความสามารถ
หลังจากเหตุการณ์นั้นเขาพาสามไป ลงดันเจี้ยนและพาไปเก็บเลเวลกันที่สุสานเครื่องสังเวย



       ด้วยคำชวนทำแคลนของเขาจึงกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของแคลนธงแดง (Emotion)



       สามเริ่มออนไลน์บ่อยขึ้น จากแคลนเล็กๆที่มีแค่ 3 คนค่อยๆได้เพื่อนจากในดันเจี้ยน
เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ   (สมัยนั้นยังตะโกนหาปาร์ตี้ในดันเจียน พอเจอคนไม่มีแคลนก็ชวนๆกันมา) 
จนเป็นแคลนระดับกลางๆ ในดันเจียนมีปัญหาการฆ่ากันบ่อยมากๆ จนครั้งหนึ่งที่แคลนเรา
โดนฆ่ายกแคลน ซึ่งตอนแรกเป็นเพียงความขัดแย้งของตัวเด็กๆจนกระทั่งมีตัวละครเกี่ยว
ข้องกับปราสาทเข้ามาด้วยทำให้บอสค่อนข้างเจ็บแค้นมาก ไม่นานนักเขาไปทำเรื่องอีกจนได้

       เมื่อบอสไปลงตีปราสาทกลูดิโอ้ (ตอนนั้นสามและเพื่อนๆเพิ่งเลเวล 40 เอง)และหลัง
จากวันนั้นเป็นต้นมาแคลน "อีโมชั่น" ก็กลายเป็นแคลนวอร์ที่เลเวลเฉลี่ย 35-55 (เอน็จอนาจ
มาก)แต่เอาจริงๆแคลนอีโมชั่น  ก็ไม่ได้มีฝ่าย หรือ มีอะไรกับเขาเลย  ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ MD
แคลน แยกตัวมาชนกับ ซุบพอดี ตอนนั้นแคลนมีปราสาทเป็นของฝ่ายซุบเปอร์ริโอ้ เราที่แค่
ไปลงตีเล่นๆแต่โดนไล่ฆ่าจริงๆก็ยังอยู่กันตรงนี้มาเรื่อยๆ  แม้ ทุกคนจะต้องก้มหน้าอยู่อย่าง
หลบๆซ่อนๆ  ด้วยเลเวลก็ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน  ของก็ไม่มีแถมโดนฆ่ากันเป็นอาจิญ แต่เราก็ไม่ยอม
ไปไหน อาจเพราะบอสเป็นคนที่ชอบเข้าหาเพื่อนๆ และเขามักยื่นมือไปหาทุกๆคนก่อนเสมอ
แม้การกระทำของเขาจะเป็นผลร้ายกับแคลนมากแต่เพื่อนๆ ก็ยังยอมเชื่อใจเขา

....แต่ แคลนอีโมชั่น ที่มีอนาคต กลับอยู่ได้ไม่นาน ก็ต้องแตกแยกกันไปเพราะอารมณ์ชัววูบ
ของ บอส  ที่มีคนมาว่าเรื่องที่เขาไม่เห็นใจคนอื่น ทำให้เพื่อนลำบาก เขาเลือกไล่ทุกคนออก
จากแคลน ในตอนเวลานั้น หลายๆคนยังคงมีความรักในแคลนอนี้อยู่นะ...   แต่แก้วที่แตกไป
แล้วไม่อาจประสานใหม่ได้อีก แม้ภายหลัง บอส จะมาพยายามตามเพื่อนๆทุกคนกลับไปอีก
ครั้ง

แต่ความเชื่อใจ มันคงไม่มีอีกแล้วละเรายังคงคุยด้วยกัน แต่ไม่มีใครคิดหันหลังกลับไปที่นั้นอีกเลย

แคลนอีโมชั่น..เดินทางมาถึงจุดจบในตอนนั้น




       หลังจากนั้นไม่นาน บอสชวนสามอยู่กับแคลนของพี่ชายเขาในแคลน King DragonII
เวลานั้นเป็นแคลนวอร์ ที่มีปราสาทอรินาดริล ในตอนนั้นสามเลเวล 50 กว่าๆแล้วละ เริ่มรู้สึกว่า
ตัวเองพูดมากขึ้นอยู่เหมือนกัน(แฮะๆ)   สามเข้าไปเล่นบอร์ดด้วย และได้เพื่อนๆจากที่นั้นมา
ก็มากหนึ่งในนั้นก็คือ หัวส้ม พี่ริน พี่แป้ง ลุงวิน และโคตรป๋าเลย ที่บ้านใหม่นี้ ได้สอนอะไร
หลายๆอย่างให้กับสาม อารมร์มันต่างกันมาก   ทั้งเพื่อนๆพี่ๆน้อง     เป็นอีกครั้งที่มี เพื่อนๆใน
แคลนพาไปเก็บเลเวล ช่วยทำเควส พาไปเทียวชมที่โหดๆเลเวลสูงๆ ร่วมถึงการทำชุดเสื้อหมาป่า
และตำราเรียนสกิลต่างๆ เป็นช่วงที่มีความสุขมาก รู้สึกว่าเรากลมเกลี้ยวและอบอุ่น

       จากบรรยากาศในแคลนใหม่นี้ แต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะราบรืนไปซะทีเดียว ในวันสงคราม
ชิงปราสาท คนที่สามต้องเป็นศัตรูกลับเป็นเพื่อนเก่าของ Emotion เป็นส่วนใหญ่ เราไม่เคยรู้
มาก่อนเลย แม้ว่าจะซิบคุยกันตลอด ต้องไปรู้ความจริงกัน ตอนอยู่ท่ามกลางสงครามเสียแล้ว...

          เพื่อน...ที่ช่วยกันเก็บเลเวลกัน  เคยมีความหวังความฝันมาด้วยกัน
ต้องมายืนอยู่ต่อหน้าอีกครั้งในฐานะฝั่งตรงข้าม


       พวกเราได้แต่ยืนอยู่เฉยๆให้เพื่อนๆของเราทั้ง  2  ฝ่ายถาโถมผ่านไป  จะมีก็แค่คำเรียก
ชื่อกันท่ามกลาง สนามรบแม้ KingDragonII จะดูยิ่งใหญ่มากสำหรับสามในตอนนั้นแต่ภายใน
กลับมีปัญหามากมาย ปัญหาที่เกิดจากการระแวงกันและกันต่างคนต่างมีเหตุผลที่ไม่ตรงกันเลย
การต้องทำตามคำสั่ง  และทิศทางของพันธมิตรแคลนวอร์   ไม่นาน(พี่แก้ว)ก็ทนไม่ไหว ขอตัว
ออกมาเพื่อทำแคลนใหม่ และได้ดึงคนบางส่วนออกไปด้วย    แม้พวกเราจะมีปราสาทแต่เราก็
ไม่ได้มีความสุขเลย   มีอยู่ครั้งหนึ่ง  เราเคยคุยกันว่าไม่มีความสุขไม่เหมือนตอนมีแค่ค่าย
        KingDragonII ของเราคงอยู่ไว้ได้ไม่นานเหมือน Emotion ตอนสุดท้ายก็ต้องยุบแคลน  
และออกมาทำแคลนใหม่ ที่ตั้งใจว่าไม่เกี่ยวข้องกับ ปราสาท หรือ สงครามอีก

แต่คนในสงครามนั้น...ราวกับต้องคำสาป..

          เพื่อนๆพี่ๆที่ถอนตัวออกมาจากสงครามแล้ว ก็ยังคงถูกตามระรานและรังความอยู่ร่ำไป
ไม่นานพวกเขาก็ทนไม่ไหว     และถูกดึงเข้าวังวนแห่งสงครามนี้อีกครั้ง บทสรุปครั้งนี้ก็ลงเอ่ย
เช่นเดิม การต่อสู้กันเอง ของเพื่อนร่วมรบใน KingdragonII

          ความรู้สึกตอนนั้น มันแย่มากๆ ทุกวันที่สามออนไลน์เข้าไปสามไม่รู้เลยว่าจุดยืนตัวเอง
อยู่ที่ไหน เราไม่มีวันรู้เลยว่าคนที่อยู่ด้วยกันตรงนี้จะอยู่ด้วยกันกับเราไปอีกนานแค่ไหน และก็
ทำอะไรไม่ได้ต้องอยู่กันอย่างหลบๆซ่อนๆ อยู่แบบนั้นรู้สึก เหนื่อยล้า จนไม่อยากทำอะไรเลย


         ไม่นานนักสายลมใหม่ก้พัดเข้ามา เมื่อ พี่สองกับ สี่  พี่น้องของสาม เข้ามาเล่นเกมส์ๆนี้
ด้วย  แม้เพื่อนเก่าหลายๆคนจะยุให้สาม รับพี่สอง กับ สี่เข้า มาในแคลนวอร์อีกครั้ง 

           "แต่ว่า...อย่าดีกว่า.. "

          ถ้าวันหนึ่งเหตุการณ์มันเปลี่ยนไปสามอาจต้องเจอ พี่สอง หรือ สี่ ในฐานะอื่นก็ได้ แต่...
ถ้าเราทำแคลนอยู่กันเองน่าจะดีกว่า...ถึงมันจะลำบากและอาจไม่ได้ดีเด่ หวือหวา เท่าคนแคลน
อื่นๆ มันยากอยู่พอตัวที่คนเล่นใหม่จะมาทำแคลนกันเองเลย โดยไม่มีเงิน  ไม่มีของ ไม่มีเลเวล  
แต่พวกเราก้เชื่อว่า มันเป็นทางที่มั่นคง และมี อิสระมากพอ  เราจะไม่อยู่ภายใต้อำนาจหรือการ
ตัดสินใจของใครอีก หรือ อย่างน้อยๆ พวกเราพี่น้องของเราก็ยังได้เลือกหนทางของตัวเองด้วย
ตัวเองได้   แม้จะมีคนมาถามกันมากว่า 

           "ทำใหม่ไปทำไม จะมีใครจะมาเข้า"
           "เป็นแคลนกลางมันเสียเปรียบ ใครๆก็รุมรังแกได้ง่ายๆขู่อะไรมาก็ได้"   


                 แต่แคลนกลางแคลนนี้  ไม่มีใครมาล้มลงได้ถ้าไม่ใช่มือของพวกเราเอง

แต่ก็นะ....ใครจะไปคิดแคลนที่ดาร์คเอลฟ์ไฟเตอร์เลเวล 10 สร้างจะมาได้ไกลขนาดนี้ 




6 ความคิดเห็น:

  1. สุดยอดเลย ^^' ฮา ๆ

    -บอส-

    ตอบลบ
  2. งะมีพี่ด้วยเข้าไปอยู่ในฐานะตัวแยกแคลน55555

    ตอบลบ
  3. สุดยอดจริงๆ กำลังติดตามเลยทีเดียว

    ตอบลบ
  4. KingDragonII เหมือนผมจะเคยอยู่แคลนนี้นะ สมันยังเช่าค่ายอยู่กีรัน พี่เจฟ พี่ริน(saharin) พี่แก้ว คิดถึงสมัยก่อนมากเลย

    ตอบลบ
  5. คิดถึงเหมือนกันครับ อยากกลับไปเล่น อยากพบกลิ่นไอแบบนี้อีก แต่ภาระเยอะ ไม่ค่อยว่างเล่น #จากพี่แก้ว หัวแคลนสายหื่น��������

    ตอบลบ
  6. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ